วันนี้ (7 มี.ค.61) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงความคืบหน้าคดีลักลอบล่าเสือดำ ของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ว่า ขั้นตอนการวิเคราะห์ของทางหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ ของกรมอุทยาแห่งชาติฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การตรวจชิ้นเนื้อและดีเอ็นเอของสัตว์ป่าว่าเป็นชนิดไหน ส่วนที่สองคือ งาช้าง ว่าเป็นช้างชนิดไหน ซึ่งโดยปกติการตรวจดีเอ็นเอจะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ แต่หากตัวอย่างชนิดนั้นเป็นตัวอย่างที่ต้องเตรียมการก่อน อาจต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 2-4 อาทิตย์ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการตรวจสอบไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และได้ดำเนินการส่งไปให้พนักงานสอบสวนแล้ว
ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวต่อว่า การตรวจดีเอ็นเอเสือดำ ที่มาจากชิ้นเนื้อ เครื่องใน เนื้อต้มในหม้อซุป ขนเสือบริเวณจุดตั้งแคมป์ หนังเสือ และเลือดที่พบในมีดเหน็บ พบว่ามาจากเสือดำตัวเดียวกัน จึงมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
นอกจากนี้เรื่องการครอบครองงาช้างของนายเปรมชัย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบว่าทั้งหมดเป็นงาช้างของจริงหรือไม่ หากมีข้อพิรุธหรือรูปร่างและจำนวนไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่แจ้งไว้กับทางกรมอุทยานฯ โดยงาช้างทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดินทันที
