“ดร.ปริญญา”จี้กทม.ฟ้องอาญาบ.อิตาเลียนไทยเพิ่ม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เผยโทษของการตัดต้นไม้ในไทยเบาเกินไป ชี้ควรฟ้องอาญากับบริษัทอิตาเลียนไทยกรณีตัดต้นไม้หน้าม.เกษตรศาสตร์ 14 ต้น ให้เป็นกรณีศึกษา ด้านผู้แทนกรุงเทพมหานครเตรียมคาดโทษบริษัทอิตาเลียนไทยเพิ่มเติม ผู้แทนเครือข่ายต้นไม้ในเมืองแนะควรดูแลต้นไม้ 3 ล้านต้นทั่วกรุงทเพฯให้เป็นระบบเพื่ออากาศที่บริสุทธิ์

เมื่อวันที่ (13 มี.ค.61) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จัดเสวนา “ปกป้องต้นไม้ในกรุงเทพ : กรณีศึกษาอิตาเลียนไทยตัดต้นนนทรีหน้า ม.เกษตรศาสตร์” โดย ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต กล่าวว่า  การที่บริษัทอิตาเลียนไทยตัดต้นนนทรีหน้า ม.เกษตรศาสตร์เป็นเรี่องใหญ่และต้องให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดการสูญเสียอีก โดยจะต้องมีมาตราการที่ถูกต้อง ทั้งทางสังคมและกฎหมาย ทางอาญาจะเสียค่าปรับการตัดไม้เพียงแค่ต้นละ 2,000 บาทเท่านั้นซึ่งไม่คุ้มค่า  โดยต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้ต้นไม้อยู่คู่กับความเจริญได้และอยู่ร่วมกับรถไฟฟ้าได้ ความจริงแล้วเหตุการณ์ครั้งนี้สามารถที่จะดำเนินการประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360 ว่าด้วยผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย  ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม ต้นไม้เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์เป็นร่มเงา คอยให้ออกซิเจนแก่มนุษย์ ต้นไม้เป็นแอร์ธรรมชาติของเมือง  อยากให้กทม.มีการระงับไม่ให้บริษัท อิตาเลียนไทย กระทำการตัดต้นไม้อีก รวมถึงต้องแจ้งไปยังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือรฟม. ว่าบริษัทที่มาทำงานให้นั้น ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อต้นไม้ของคนกรุงเทพฯ

“เราไม่ต้องการเห็นเอาเงินภาษีอากรของประเทศไปตัดต้นไม้แบบนี้หรือเอาไปจ่ายเงินเดือนให้กับผู้บริหารซึ่งมีงานอดิเรกที่เป็นพิษเป็นภัยต่อธรรมชาติแบบนี้ นายทุนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมประชาชนต้องลุกมาทักท้วง เพื่อประโยชน์ต่อส่วนร่วมของประเทศไทย”

นางสาวช่อผกา วิริยานนท์  ผู้แทนเครือข่ายต้นไม้ในเมือง กล่าวว่า  การตัดต้นนนทรีหน้า ม.เกษตรศาสตร์ เป็นประเด็นที่สะท้อนให้เห็นถึงนโยบาย เรื่องของต้นไม้ในเมืองซึ่งการวางระบบบริหารจัดการต้นไม้ในเมืองของประเทศไทยเป็นสิ่งที่ไม่มีระบบเลย ประเทศไทยมีปัญหาทะเลาะเรื่องต้นไม้ในเมือง เนื่องจากประเทศไร้ซึ่งระบบบริหารจัดการต้นไม้

ต้นไม้ในเมืองไม่ได้โตโดยธรรมชาติ แต่เป็นลักษณะการเติบโตแบบผิดธรรมชาติเพราะระบบนิเวศของต้นไม้ในเมืองคือ ฟุตปาธ มอเตอร์ไซค์ ร้านอาหาร คอนโด ฉะนั้นต้องมีการบริหารจัดการหากไม่มีการบริหารจัดการสิ่งนั้นจะก่อให้เกิดโทษได้   โดยการมีต้นไม้ในเมืองเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษต่างๆ ปริมาณของต้นไม้ในเมืองมีประมาณ 3 ล้านต้น ผู้เชี่ยวชาญสามารถคำนวนได้หรือไม่ ว่าต้นไม้สามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องสูดดมมลพิษต่างๆ

นายสุรเชษฐ์ โพธิ์เจริญ หัวหน้าสวนธนบุรีรมย์ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า  กรณีนี้ทางบริษัทอิตาเลียนไทย ได้ดำเนินการตัดแต่งต้นไม้โดยไม่มีการขออนุญาตกับทางกทม.แต่อย่างใด  โดยทางสำนักงานเขตจตุจักรได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายหลังละเมิดการกระทำโดยไม่ขออนุญาตก่อนเป็นจำนวนเงิน 170,000 บาท และทางกทม.ได้ทำคู่มือในการตัดแต่งต้นไม้ที่ถูกวิธีและการแต่งต้นไม้ให้สวยงามเป็นแนวทางอีกหนึ่งวิธีสามารถเอาไปใช้ในกรุงเทพฯหรือหัวเมืองใหญ่ได้  โดยกลุ่มบิ๊กทรีได้มีการสอนและให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่กทม.ในการดูแลและตัดแต่งต้นไม้เป็นประจำอยู่ แล้ว

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ