'พล.อ.ชัยสิทธิ์' ยันไม่มีเอี่ยวมือบึ้มศาลอาญา ขู่ฟ้องกลับคนถามนำพาดพิง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ยืนยันไม่หนี! พล.อ.ชัยสิทธิ์ ยินดีถูกสอบปากคำ แต่ขอฟ้องกลับคนตั้งคำถามชงพาดพิงถึง ด้านนายกฯ กร้าว ให้คำมั่น ไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ได้อีก ขณะที่ ผบ.ตร.ฟังธง มือบึ้มเป็นกลุ่มเดียวกับเหตุระเบิดหน้าบีทีเอสสยาม เตรียมตั้งรับสุดกำลัง ป้องกันเหตุร้ายจากคำขู่ระเบิดป่วนเมือง 15 มี.ค.


จากกรณี การแถลงข่าวความคืบหน้าจับกุมมือปาระเบิดศาลอาญา รัชดา เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 มี.ค.) โดย 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ให้การพาดพิงว่ารู้จัก พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งตำรวจเตรียมเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนั้น


วันที่ 9 มี.ค. 58 ที่สวนพุดจีบ จ.ปทุมธานี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงเปิดใจ โดยยืนยันจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี กับผู้ที่ตั้งคำถามนำให้ผู้ต้องหาพูดพาดพิงถึงในการแถลงข่าวเมื่อคืนนี้


และจะไม่หนีไปไหน ขอเป็นหนึ่งคนในตระกูลชินวัตรที่จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่เกี่ยวข้องกับคดีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่ารู้จักภรรยาของผู้ก่อเหตุ ซึ่งภายหลังแถลง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ชูกำปั้นพร้อมร้องเพลงรอยยิ้มนักสู้


ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ก่อเหตุต้องการสร้างความตื่นตระหนกและสร้างบทบาท ซึ่งขณะนี้กำลังรอผลการสอบสวนขยายผลจากผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดบ้าง


"ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์อีก ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่ามีการวางแผนจะสร้างความรุนแรงหลายจุดในวันที่ 15 มี.ค.นี้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งทางการข่าวได้เฝ้าระวังในทุกพื้นที่เสี่ยง และขอให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังอีกทางหนึ่ง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว พร้อมย้ำว่า กฎอัยการศึกไม่ได้เป็นการปิดกั้นประชาชน เพราะใช้แค่บางมาตราเท่านั้น


ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ยืนยันว่า เหตุขว้างระเบิดที่หน้าศาลอาญา เป็นขบวนการเดียวกันกับเหตุระเบิดบริเวณทางเดินเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม หน้าห้างสยามพารากอน แต่มีวิธีการและรูปแบบการก่อเหตุที่แตกต่างกันไป ตามความชำนาญของแต่ละกลุ่ม


"ส่วนกรณีที่ทางผู้ต้องหา ได้พาดพึงถึงนายทหารและนายตำรวจระดับสูงที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ถ้าหากพบความเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่ถูกอ้างถึง ก็จะมีการเรียกสอบทุกบุคคล ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนสาเหตุการปาระเบิดส่วนตัวคาดว่า มาจากเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองค่อนข้างชัดเจน" ผบ.ตร. ระบุ


พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อคำอ้างว่าจะมีการวางระเบิดอีกหลายจุดในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งได้สั่งให้เจ้าหน้าเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลาโดยไม่ประมาท และปรับแผนการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ดังตัวอย่างที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีการวางแผน และเฝ้าจับตา เปรียบเสมือนการเก็งข้อสอบ ในการเลือกเป้าของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตรวจสอบข้อความสนทนาในไลน์มือถือ หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีบุคคลชื่อ "เดียร์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ว่าจ้างให้มาก่อเหตุครั้งนี้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหามือปาระเบิดศาลอาญา รัชดา ทั้ง 4 คนที่จับได้ คือ นายมหาหิน ขุนทอง นายยุทธนา เย็นภิญโญ นางสาวณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง และนางสาวธัชพรรณ ปกครอง ส่วนอีก 1 คน คือ นายวิระศักดิ์ โตวังจร อยู่ระหว่างติดตามตัว.

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ