ถ้าไปไล่เลียงดูคำพิพากษาศาลปกครองกลางตัดสินให้บริษัทไทยทีวีคืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอลได้ โดยมีเหตุผลหลักๆ คือ การแจกคูปอง set-top-box ของ กสทช.ช้ากว่ากำหนด 6 เดือนซึ่งการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง
ที่ผ่านมาการประมูลทีวีดิจิตอลใช้เวลาทั้งสิ้น 2 วัน คือ วันที่ 26-27 ธันวาคม 2556 จากนั้น กสทช.เริ่มแจกคูปองล็อตแรกวันที่ 20 ตุลาคม 2557 จำนวน 4.6 ล้านครัวเรือน ใน 21 จังหวัดแรก จนถึงวันนี้ ข้อมูลจาก กสทช.ระบุว่า จำนวนคูปองทีวีดิจิตอลทั้งหมด ที่สำนักงาน กสทช.แจกออกไปตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันมีจำนวน 17,555,958 ใบ แต่ยอดคูปองที่ประชาชนนำมาแลกกล่อง set-top-box ทั้งหมดจนถึงวันที่ 19 ธ.ค. 2560 มีเพียง 9,836,038 ใบ หรือ 56.03% ขณะที่ พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เคย เปิดเผยว่า ระบบทีวีอนาล็อกจะยุติทั้งหมดอย่างช้าที่สุดไม่เกินปี 2563
2.การขยายโครงข่ายล่าช้ากระทบต่อสัดส่วนผู้ชมกระทบกับรายได้ค่าโฆษณา
3. ไม่มีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทั้งๆที่ต้องแบกต้นทุนจากค่าประมูล
ที่ผ่านมา กสทช.กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลต้องจ่ายเงินค่าใบอนุญาตประมูลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งคือ วันที่ 25 พฤษภาคม ของทุกปี โดยจะต้องจ่ายเป็นสองส่วน คือ ส่วนแรก เงินประมูลขั้นต่ำต้องจ่ายภายใน 4 ปี เริ่มจากปีแรก 50% , 30%, 10% 10% ส่วนที่สอง คือ เงินส่วนเกิน จะต้องจ่ายภายใน 6 ปี คือ 10% ในสองปีแรก และปีละ 20 % ในอีก 4 ปี ที่เหลือ
ปรากฏว่าในงวดที่ 2 ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ได้ยื่นหนังสือไปที่ กสทช. เพื่อขอให้มีการเลื่อนการจ่ายค่าใบอนุญาตประมูลทีวีดิจิตอล งวดที่ 2 (ปี 2558) ออกไปอีก 1 ปี จากนั้นได้มีการประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลให้ “ยืดเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอล” โดยเปลี่ยนงวดเงินก้อนที่เหลือใหม่เป็น 8 งวด (2 งวดสำหรับค่าประมูลขั้นต่ำ และ 6 งวดสำหรับส่วนที่เกินค่าประมูลขั้นต่ำ) รวมแล้วยืดระยะเวลาทั้งหมดจาก 6 ปีเป็น 9 ปี แต่จะคิดดอกเบี้ยเพิ่มจากระยะเวลาที่ยืด
4. การแข่งขันสูงทำให้โฆษณาลดลงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ
ข้อมูลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (Media Agency Association of Thailand : MAAT) คาดว่า ปี 2560 งบโฆษณาของสื่อหลักยังลดลง โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ทั้งดิจิตอลทีวี เคเบิลทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมลดลง 15% ขณะที่ในปี 2558 โตขึ้น 2.8% จากปีก่อนหน้า ส่วนในปี 2559 ตกลงถึง 11%
5. ให้ กสทช.คืนหนังสือค้ำประกันให้กับบริษัทไทยทีวี 1,748 ล้านบาท และ 6. ให้คืนค่างวดใบอนุญาติที่จ่ายไปแล้ว ภายใน 60วัน นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด
ซึ่งในวันนี้ (14 มี.ค.) พันเอก ดร.นที ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า บร์อด กสทช.มีมติ น้อมรับในคำตัดสินของศาลปกครองกลาง และยินดีที่จะดำเนินการ แต่ยังมีคำวินิจฉัยที่ กสทช. เห็นแย้งในเรื่องออกใบอนุญาตเข้าร่วมในการจัดทำบริการสาธารณะแทนรัฐในการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่อันเป็นสมบัติของชาติ และจะอุทธรณ์เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในโอกาสต่อไป ซึ่งเตรียมส่งข้อมูลให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการเพื่อยื่นอุทธรณ์ ให้เร็วที่สุดจากกำหนดของศาลที่ให้ยื่นภายใน 60 วัน
สิ่งที่ต้องจับตาดูนับจากนี้คือ เมื่อเกิดบรรทัดฐานจากกรณีของเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล จะทำให้สนามการแข่งขันของทีวีดิจิตอลเหลือผู้เล่นอีกกี่ราย
ข้อมูล สมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (Media Agency Association of Thailand : MAAT)