วันนี้ (15 มี.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในตำบลบ้านปรือ ที่นำวัวและควายมาเลี้ยง ในทุ่งจะออกมาเฝ้าดุแลวัวและควาย หลังจากมีข่าวว่ามีสุนัขบ้าในหมู่บ้าน และวัวของชาวบ้านตายไป 2 ตัว โดยไม่ทราบสาเหตุ
นอกจากนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมามีวัวเพศผู้อายุประมาณ 1 ปี ของชาวบ้าน ในตำบลบ้านปรือ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ตายไป 1 ตัว โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก่อนตายชาวบ้านระบุว่า มีอาการผิดปกติน้ำลายฟูมปาก แต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จากนั้นนำวัวตัวดังกล่าวไปชำแหละแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านรับประทาน แต่สงสัยว่าวัวอาจติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทำให้ชาวบ้านกังวล
นายแพทย์สมชาย ธรรมสารโสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระสัง เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่สัมผัสสารคัดหลั่งเช่นเลือดวัว จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่า จากการสืบสวนโรคพบว่าชาวบ้านนำวัวไปทำให้สุกก่อนบริโภค จะทำให้เชื้อโรคตายไป แต่ก็ไม่แนะนำให้บริโภคเนื้อที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อโรค ล่าสุด ชาวบ้านที่รับประทานเนื้อวัวและสัมผัส ทั้งหมด 13 คน ได้มาฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว และเฝ้าระวังอาการ
ด้านนายคมสัน สมัครการ ปศุสัตว์อำเภอกระสัง นำหัววัวไปตรวจสอบแล้ว รอผลว่าจะมีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ พร้อมฉีดวัคซีนให้วัวที่อยู่ในคอกเดียวกันทั้งหมด ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2559 ถึงปี 2560 พบว่า มีวัวและควายของชาวบ้านติดเชื้อพิษสุนัขบ้า 4 ตัว
เจ้าหน้าปศุสัตว์และหน่วยงานท้องถิ่น ฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวทั่วทั้งอำเภอไปแล้วกว่าร้อยละ 50 คาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนให้สุนัขได้ครบทั้งอำเภอภายในเดือนเมษายนนี้
จังหวัดบุรีรัมย์ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งจังหวัด มาตั้งแต่ปลายปี 2559 หน่วยงานท้องถิ่นยอมรับว่าเกิดความไม่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2558 หลังจากที่ สตง.ท้วงติง แต่ในขณะนี้หลายพื้นที่ได้รับวัคซีนแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างลงพื้นนำไปฉีดให้กับสุนัขในพื้นที่ต่างๆ
