ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 2,964 เสียง ให้นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง วัย 62 ปี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปเป็นสมัยที่ 2 ในวันนี้ วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี โดยมีสมาชิกสภาออกเสียงคัดค้านแค่เพียง 2 เสียงเท่านั้น
การแต่งตั้งดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่สภาประชาชนแห่งชาติจีนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย
สำหรับนายหลี่ ได้รับการแต่งตั้งในปี 2013 ให้บริหารงานประจำวันในประเทศ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่มีสัญญาณว่าตัวนายหลี่เองเริ่มถูกลิดรอนอำนาจ และอาจไม่ได้ดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหน้าที่เดิมของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนายสีต่างผลักดันให้บุคคลผู้ทรงอิทธิพลรอบตัวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญๆ จนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้นายหลี่ได้แสดงบทบาท
"คิม จอง-อึน" ร่วมยินดี "สี จิ้นผิง" เป็น ปธน.จีน อีกสมัย
ขณะที่บรรดาผู้นำโลกต่างร่วมแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งอีกสมัยเมื่อวานนี้ อาทิ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ประธานาธิบดี บุนยัง วอละจิต ของ สปป.ลาว และอีกหนึ่งคนที่น่าสนใจ คือ นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ก็ร่วมส่งสารแสดงความยินดีกับนายสีในครั้งนี้ พร้อมแสดงความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของจีนและเกาหลีเหนือจะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
นี่ถือเป็นการส่งสารโดยตรงถึงจีนที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น นับตั้งแต่นายคิมขึ้นเป็นผู้นำประเทศ โดยนายคิมนั้น ยังไม่เคยเดินทางเยือนจีนเลย ต่างจากในสมัยของปู่และบิดา คือ นายคิม อิล-ซุง และนายคิม จอง-อิล ที่เยือนกรุงปักกิ่งมาแล้วหลายครั้ง ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสื่อจีนและสื่อของทางการเกาหลีเหนือ ไม่ได้รายงานว่านายสี มีท่าทีตอบรับ หรือตอบกลับสารแสดงความยินดีของนายคิมหรือไม่ อย่างไร