ความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริต “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต” อนุกรรมการ ป.ป.ท. ยังอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารและขอหลักฐานเพิ่มเติมจากกระทรวงศึกษาธิการหลังไม่ปักใจเชื่อว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา นางรจนา จะยักยอกเงินทุนการศึกษาเด็กกองทุนเสมาฯ เพียงคนเดียว โดยไม่มีใครรู้ห็นเป็นใจ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า การทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต อาจมีผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม เป็นข้าราชที่รับตำแหน่งในสมัยนั้น ตั้งแต่ปลัด หรือ รองปลัด และ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ฐานประมาทเลินเล่อในการดู และเซ็นเอกสาร หรืออาจจะร่วมกระทำผิดกับนางรจนา
ส่วนเส้นทางการเงินที่ถูกยักยอกทุจริตออกไป ป.ป.ง. ยังตรวจสอบอยู่ว่าถูกถ่ายโอนไปถึงใครบ้าง ซึ่งนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า อาจมีมากกว่า 22 บัญชีที่ร่วมทุจริต เพราะมี 10 บัญชีที่ถูกปิดเมื่อช่วงปี 2551-2561
แต่ที่น่าสงสัยมากไปกว่านั้น นายอรรถพล ประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ พบว่า เงินกองทุนเสมาเปิด 2 บัญชี บัญชีแรกใช้ชื่อว่า “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต” เป็นบัญชีฝากประจำ 600 ล้านบาท มีเงินถูกโอนออกไปทั้งที่ไม่สามารถทำได้ เพราะตามหลักการ บัญชีชื่อว่า “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเพื่อใช้จ่าย” ที่เป็นดอกผลจากการฝากประจำ 600 ล้านบาทเท่านั้นถึงจะโอนเงินให้เด็กหรือสถาบันการศึกษาได้เพียงบัญชีเดียว
หลังจากนี้จะมีการขอตั้งกรรมการสอบทุจริตกองทุนเสมาเพิ่มเติมภายในเดือนมีนาคม เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการคนอื่นๆ เพราะต้องไล่เรียงเอกสารย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งมีจำนวนมาก และตามระเบียบข้าราชการพลเรือน 2551 ระบุว่า ถ้าข้าราชการที่เกษียณอายุเกี่ยวข้อง จะตั้งกรรมการสอบได้ก็ต่อเมื่อเกษียณอายุไปไม่เกิน 180 วัน