วันนี้ (27 มี.ค.61) วันแรกของการนำรถเมล์ NGV ออกให้บริการประชาชน ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย และผู้พิการ เนื่องจากรถเมล์คันใหม่มีระบบไฮโดริก ที่ทางขึ้นสามารถใช้งานได้ ทั้งคนทั่วไป คนพิการ และผู้สูงอายุ ต่างจากรถแบบเก่า และยังติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถด้วย จากการที่ทีมข่าวทดลองใช้บริการ และพูดคุยกับผู้โดยสาร ที่รถสาย 105 บอกว่าขึ้นง่ายกว่ารถเก่า และอยากให้เพิ่มจำนวนรถแบบนี้ ในอีกหลายเส้นทาง
สำหรับการเดินรถเมล์ NGV 100 คันแรกวันนี้ จะเริ่มปล่อยรถออกจากเขตการเดินรถที่ 5 ใน 5 เส้นทาง ได้แก่ สาย 20 ป้อมพระจุลจอมเกล้า-ท่าน้ำดินแดง (15 คัน) สาย 21 วัดคู่สร้าง-จุฬาฯ( 15 คัน) สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน (25 คัน) สาย 138 เส้นทาง พระประแดง-หมอชิต 2 (30 คัน)และ สาย 140 เส้นทาง แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมร (15 คัน) โดยในวันที่ 26 เมษายน จะให้บริการเพิ่มอีก 30 คัน แบ่งเป็น สาย 76 , 140 และ 141 โดยรถเมล์ NGV ที่นำมาวิ่งจะมีทั้งนำมาทดแทนรถเดิมที่ปลดระวาง และนำมาวิ่งเสริม ทำให้แต่ละเส้นทางมีจำนวนรถให้บริการเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ได้ส่งมอบรถล็อตแรกแล้ว 100 คัน จะทยอยส่งมอบจนครบภายในเดือนมิถุนายนปีนี้ และจะนำมาบรรจุลงในเส้นทางการเดินรถครอบคลุมการให้บริการในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 25 เส้นทาง ซึ่งจะไม่มีการปรับเพิ่มค่าโดยสาร และการให้บริการจะยังคงมีพนักงานเก็บค่าโดยสารตามเดิม
รถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489 คัน มีการออกแบบทันสมัย มี 35 ที่นั่ง ตกแต่งภายในด้วยวัสดุไม่ลามไฟ มีระบบปรับลดระดับความสูงของตัวรถ และทางลาดแบบพับเก็บ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด 5 จุด และติดตั้งระบบ E-Ticket รองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และตั๋วร่วม โดยล่าสุดขสมก.ได้ดำเนินการติดตั้ง E-Ticket บนรถเมล์ร้อนจำนวน 800 คันครบตามเป้าหมาย พร้อมยืนยันว่าได้แก้ไขปัญหาเรื่องการรูดบัตรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทยอยเปิดใช้บริการ
ส่วนความคืบหน้าแผนฟื้นฟูของ ขสมก. ขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.ได้เห็นชอบแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในลำดับต่อไป เบื้องต้นยังเป็นแผนการจัดหารถเมล์ใหม่ในเฟสที่ 2 แต่ไม่มีการพิจารณาค่าโดยสารใหม่บรรจุในแผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าว