โกงเพิ่มอีก! “รจนา” ทุจริตกองทุนเสมาฯปี’47- 48 ยอดเงินรวม 110 ล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการได้แถลงข่าวสรุปความคืบหน้า พบข้อมูลใหม่ว่ามีการโกงเพิ่มเติมอีกในระหว่าง ปี’47 – 48 ทำให้ยอดรวมเงินที่ถูกทุจริตขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 110 ล้านบาท

วันนี้ (2 เม.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง การทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยข้อมูลใหม่ของการตรวจสอบว่า ล่าสุดพบการทุจริตเงินเพิ่มเติมอีก 2 ปี คือ ปี 2547-2548 ซึ่งทำให้ยอดรวมเงินที่ถูกทุจริตไป รวมแล้วกว่า 110 ล้านบาท โดยการแถลงข้อมูลใหม่นี้ เกิดขึ้นระหว่างที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จัดแถลงข่าวการปราบปรามทุจริตในทุกเรื่อง ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งประเด็น การทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เป็นประเด็นหลักที่ถูกสื่อมวลชนซักถามมากที่สุด ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง การทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินในกองทุนกว่า 20 คน เข้าให้ข้อมูล ซึ่งในวันที่ 5 เมษายนนี้ จะเชิญข้าราชการที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้วเข้าให้ข้อมูล หนึ่งในนั้นคือ นายรจนา สินที อดีตข้าราชการที่เป็นผู้ทุจริตเงินในกองทุนนี้ ส่วนกลุ่มข้าราชการระดับสูง สามารถส่งหนังสือชี้แจงได้ถึงวันที่ 10 เมษายน

อย่างไรก็ตามการสืบข้อเท็จจริง ขณะนี้แม้ว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่ามีใครเชื่อมโยงกับขบวนการทุจริตเงินกองทุนของนายรจนาหรือไม่ แต่นายอรรถพล ยืนยันว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้บางส่วนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับดำเนินการ นอกจากคณะกรรมการชุดของนายอรรถพล จะเป็นผู้สืบข้อเท็จจริงแล้ว ยังให้ศึกษาธิการจังหวัด ตรวจสอบเงินที่แต่ละโรงเรียนได้รับเงินไปคู่ขนานไปด้วยเพื่อดูว่ายอดเงินที่ได้รับและยอดที่จ่ายตรงกันหรือไม่ เพราะเบื่องต้นพบว่า บางโรงเรียนได้รับเงินเกินไป ขณะที่บางโรงเรียนไม่ได้รับเงิน

สำหรับการสืบข้อเท็จจริงการทุจริตครั้งนี้ มีกำหนดการดำเนินการว่าต้องแล้วเสร็จในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเบื้องต้นรัฐมนตรีว่าการกระทรงงศึกษาธิการ ระบุว่า ก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ น่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นก่อน ส่วนกลุ่มที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต มีโอกาสที่จะต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายประมาทจนทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่

ขณะเดียวกันสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ตรวจสอบแฟ้มเอกสารทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งมีข้อมูลสำคัญหลายประเด็นที่เชื่อมโยงกับการโกงเงินในกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะที่นางรจนา สินที อดีตข้าราชการระดับ 8 อ้างว่าเป็นคนลงมือทำเพียงคนเดียวและไม่ซัดทอดใคร ด้านนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า สิ่งที่ทำให้นางรจนา สามารถทุจริตได้นานเป็น 10 ปี อาจจะเป็นเพราะระบบโอนเงินไม่ทราบรายชื่อเจ้าของบัญชี และเงินกองทุนเสมาฯ 600 ล้านบาท ถูกนำมาฝากรวมกับบัญชีระยะสั้นของกระทรวงศึกษา โดยไม่แยกออกมาช่วงปี 2553 จึงทำให้ง่ายต่อการทุจริต เพราะกระทรวงศึกษาฯมีงบประมาณจำนวนมากจากหลายกองทุน

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการตรวจสอบเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.  และตำรวจ เพื่อไม่ให้ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน ส่วนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน อยู่ระหว่างนำข้อมูลในแฟ้มเอกสารตรวจสอบทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มาวิเคราะห์ช่องโหว่ในระเบียบกองทุนว่ามีจุดเสี่ยงตรงไหนเอื้อกับการทุจริต สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการแก้ระบบให้ถูกจุด เพราะเชื่อว่าระบบจะเป็นตัวป้องกันเจ้าหน้าที่ ที่คิดทุจริตเงินในทุกกองทุน

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ