สำรวจแนวป่าดอยสุเทพ กลุ่มค้านฯ ย้ำ คืนต้องคืนพื้นที่ตามแนวป่าดั้งเดิม

ภาพกราฟฟิกเส้นสมมติ 3 เส้นที่ขีดขนาดกับพื้นที่ดอยสุเทพ บริเวณจุดก่อสร้างบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ ภาค 5 คือ สิ่งที่ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพพร้อมด้วยตัวแทนระดับจังหวัด ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ป่าดอยสุเทพร่วมกันเส้นสมมติเส้นบนสุด คือ จุดที่ใช้สะพานลำห้วยชะเยืองเป็นเส้นแบ่งพื้นที่ หรือหากมองจากภาคจะเห็นว่า เส้นแบ่งนี้ตัดขาดพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการทั้ง 45 หลังพอดี ส่วนเส้นสมมติที่ 2 คือ จุดที่คณะกรรมการร่วมฯระดับจังหวัดและเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เลือกขีดเส้นตามแนวขนานกับพื้นป่า ซึ่งกินพื้นที่ บ้านพักตุลาการ 45 หลัง และ อาคารแฟลต 7 อาคาร  และเส้นสมมติเส้นที่ 3 คือ เส้นที่เครือข่ายฯยืนยันว่าเป็นแนวป่าดั้งเดิม ซึ่งกินพื้นที่บ้านพักตุลาการ 45 หลัง และ อาคารแฟลต 9 อาคาร แม้จะกำหนดเส้นสมมติขึ้น 3 เส้น แต่เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ยังคงยืนยันว่าจะต้องรื้อพื้นที่ก่อสร้างที่อยู่ในเขตป่าดั้งเดิม หรือ หมายความว่าต้องยึดเส้นสมมติที่ 3 เป็นจุดที่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพราะการก่อสร้างทั้งหมดกระทบสิ่งแวดล้อม

สำหรับการเข้าสำรวจพื้นที่วันนี้ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เข้าสำรวจทั้งหมด 3 จุด จุดแรก บริเวณสามแยกต้นสัก เป็นจุดที่จะเห็นความสมบูรณ์ของป่าเต็งรัง และสวนลิ้นจี่ของราษฎรในโครงการบ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่า จุดที่ 2 บริเวณหลังหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก ซึ่งเป็นพื้นที่ราบสำหรับราษฏรทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ แต่ภายหลังยุติไปเพราะน้ำจากห้วยชะเยืองไม่เพียงพอ จุดที่3 บริเวณสันเขื่อนหนองจอก สำนักงานชลประทานเชียงใหม่ที่ 1 

สำหรับแผนการลงพื้นที่ตอนแรกกำหนดว่าจะเข้าไปในจุดก่อสร้างบ้านพักตุลาการฯ เพื่อไปดูพื้นที่จริงด้วย แต่เมื่อเดินทางไปถึงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำศาลอุทธรณ์ภาค 5 ว่า ยังไม่ได้รับคำตอบจากสำนักงานใหญ่ทำให้ไม่สามารถเข้าสำรวจในพื้นที่ได้

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงความเห็นกรณีประชาชนที่คัดค้านการก่อสร้างบ้านพักศาลอุธรณ์ภาค 5 โดยระบุว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าจะไม่รื้อถอนบ้านพักดังกล่าวทิ้ง เพราะจะทำให้งบประมาณเกิดการสูญเปล่า