ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บันได 4 ขั้น ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจทั่วโลก โดยไล่เรียงความรุนแรงสงครามเป็น 4 ระดับ ได้แก่ สงครามกลางเมือง สงครามตัวแทน สงครามภูมิภาค และระดับที่ขยายวงรุนแรงมากที่สุด คือ สงครามโลก หลังจากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงเมื่อสหรัฐอเมริกาใช้ขีปนาวุธโจมตีคลังผลิตอาวุธเคมีประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายมาโนชญ์ อารีย์ หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มองว่า พัฒนาการของสถานการณ์ขณะนี้ อยู่ในระดับ “สงครามตัวแทน” แต่อาจไต่ระดับขึ้นไปเป็น “สงครามภูมิภาค “ หากสหรัฐ และ รัสเซีย ประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ฝ่าย เผชิญหน้ากันแบบยืดเยื้อ เพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ในซีเรีย และแถบตะวันออกกลาง แต่ปัจจัยในตอนนี้เชื่อว่า ไม่ถึงขั้นสงครามโลก
มาโนชญ์ อารีย์ หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุว่า เบื้องต้นสหรัฐและรัสเซียไม่ต้องการให้ความขัดแย้งขยายวงไปภูมิภาคอื่นๆ เพราะมีความสัมพันธ์ทางการค้า ทางเศรษฐกิจ ถ้าเกิดมันไปพันกับปัญหาในภูมิภาคอื่นในคาบสมุทรเกาหลี ทะเลจีนใต้ จะยิ่งดึงให้จีนมาเกี่ยวข้องมากขึ้น นั่นก็อาจจะนำไปสู่บันไดขั้นที่ 4 คือการเผชิญหน้ากันระหว่างมหาอำนาจโลก เป็นสงครามโลกได้ และมองว่า มหาอำนาจยังไม่ต้องการมหาอำนาจยังไม่ต้องการ ร้ายแรงที่สุดคือการต่อสู้กันระหว่างภูมิภาคตะวันออกกลาง
ขณะที่การโจมตีของสหรัฐฯครั้งนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตุจากนักวิชาการว่า อาจไม่ใช่แค่การยับยั้งซีเรียไม่ให้ใช้อาวุธเคมีตามที่ถูกกล่าวหา เพราะมีอังกฤษ ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายสนับสนุนการโจมตีด้วย จึงเชื่อว่าอาจมีเดิมพันมากกว่า คือการโค่นล้ม บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย เพื่อประกาศชัยชนะเข้าไปมีอิทธิพลในตะวันออกกลาง เพราะต้องการทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับท่อส่งก๊าซและน้ำมัน แต่หากยับยั้งไม่ได้ อาจทำให้ประเทศพันธมิตรแถบตะวันออกกลางเปลี่ยนขั้วมาอยู่ฝ่ายรัสเซียที่สนับสนุนซีเรีย
หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ มองว่า ถ้ามองเฉพาะเรื่องของเคมีการใช้อาวุธเคมีผมคิดว่า มันก็ไม่น่าจะมีอะไรบานปลาย น่าจะเหมือนปีที่แล้วโจตีแล้วจบไป แต่ถ้ามันมีวัตถุประสงค์เป้าหมายทางการเมืองมากกว่านี้ อันนี้น่าสนใจ อย่างที่เราเห็นปฏิบัติการครั้งล่าสุด ไม่ได้มีสหรัฐเพียงประเทศเดียว มีอังกฤษ ฝรั่งเศสมาร่วมด้วย ถ้าจะลงโทษอัสซาด สหรัฐสามารถปฏิบัติการได้ด้วยตัวเอง แต่ทำไมดึงอักฤษฝรั่งเศสเข้ามาร่วมด้วย ตรงนี้ต้องการส่งสัญญาณอะไร มองได้หลายมุม มุมที่ 1 ถึงแม้มียิงขีปนาวุธหนักหน่วง แต่สหรัฐส่งสัญญาณบอกว่าตีระลอกเดียว มุ่งโจมตีเฉพาะจุด บอกรัสเซียว่าไม่ต้องการเล่นเกมยาว การที่อังกฤษ ฝรั่งเศส มาร่วมด้วย อาจมีนัยยะสำคัญ เพราะมีผลประโยชน์ในตะวันออกกลาง ต้องการส่งสัญญาณชัดเจนถึงพันธมิตรในอาหรับตะวันออกกลางว่าตะวันตก และสหรัฐพร้อมสนับสนุนพวกเขาอยู่
ส่วนอีกความเคลื่อนไหวที่กำลังถูกจับตาคือการตอบโต้ของรัสเซียไปยังสหรัฐฯว่าจะใช้รูปแบบไหน นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์มองว่า ยุทธิวิธีที่ใช้ตอบโต้อาจไม่ใช้การเผชิญหน้าหรือกำลังทางทหาร แต่เป็นการเสริมระบบป้องกันขีปนาวุธยังประเทศพันธมิตรและหัวเมืองต่างๆแทน ซึ่งถือว่าเป็นชั้นเชิงในการต่อสู้ เพราะการโจมตีของสหรัฐฯครั้งล่าสุดเครื่องป้องกันขีปนาวุธรัสเซียสามารถยิงสกัดขีปนาวุธนำวิถีได้ 71 ลูกจากที่ฝ่ายสหรัฐฯและชาติพันธมิตรที่ยิงมาทั้งหมด 103 ลูก
แต่ในมุมมองด้านเศรษฐกิจ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองว่าวิกฤตซีเรียครั้งนี้ อาจจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 80- 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ อาจเป็นจุดสิ้นสุดของยุคราคาน้ำมันถูก ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงสุดในรอบ 3 ปีไปแล้ว ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและสามารถปรับขึ้นได้อีกร้อยละ 10-15 ราคาทองในประเทศวันนี้ ปรับราคาขึ้นบาทละ 50 บาท โดยราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,800 บาท และขายออกบาทละ 19,900 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,450.28 บาท ขายออกบาทละ 20,400 บาท เป็นผลมาจากราคาทองในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,347.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จาก 1,341 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงกระตุ้นให้มีการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น คาดว่าแนวโน้มราคาทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปัญหาดังกล่าวยังไม่สามารถหาข้อยุติกันได้
ขณะที่ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มองว่า หากสงครามไม่ยืดเยื้อและไม่ลุกลาม จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในอีกไม่นานประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. บอกว่า สรท.จะติดตามสถานการณ์ปฏิบัติการโจมตีซีเรียอย่างใกล้ชิด ว่าจะลุกลามบานปลายหรือไม่ เพราะหากรัสเซียร่วมวงโจมตีปฏิบัติการของสหรัฐปัญหาอาจจะกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งในแง่ตลาดเงิน ตลาดทุน รวมทั้งราคาทองคำและน้ำมันดิบที่จะมีราคาสูงขึ้น ตลอดจนผลกระทบของค่าเงิน โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐจะมีความผันผวนมากขึ้น สำหรับการส่งออกสินค้าไปตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพอาจจะยากขึ้น แต่ในแง่บวกต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารสำเร็จรูปจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะมีสำรองอาหารจำนวนมากกรณีการโจมตีกินระยะเวลานาน ขณะที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็สั่งจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
