“รองหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์ฯ”ยันพฤติกรรมฉลาม90%ไม่ดุร้าย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รองหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์ฯ-ช่างภาพสารคดี ยืนยันฉลามกลัวคน โอกาสโดนกัดมีน้อยมาก แนะ หน่วยงานรัฐให้ความรู้ประชาชนฉลามไม่ได้ดุร้าย เผยจุดไหนมีฉลามเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวเพราะต่างชาติมาเที่ยวไทยต้องการดำน้ำดูฉลาม

กรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บขณะเล่นน้ำทะเลและมีการระบุว่าถูกฉลามกัด ที่หาดทรายน้อย วัดถ้ำเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส้รางความแตกตื่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

วันนี้ (19 เม.ย.61) รายการเป็นเรื่องเป็นข่าวได้เชิญผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องฉลาม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมรายการ เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงว่าฉลามเป็นสัตว์ที่ดุร้ายจริงหรือไม่

โดย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวเบื้องต้นทางจังหวัดได้วางมาตรการไว้ 2แนวทาง คือ 1.ส่งข้อมูลให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องฉลามวิเคราะห์รายละเอียด  2. ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้วางแนวทางว่าถ้าเกิดเหตุลักษณะนี้จะต้องป้องกันไว้ 2ขั้นตอน คือ 1.จัดทำป้ายเตือนประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่หัวหิน ส่วนหาดทรายน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศปิดห้ามลงเล่นน้ำชั่วคราว 2. การเฝ้าระวังช่วยเหลือให้นักท่องเที่ยว พร้อมประกาศห้ามลงเล่นน้ำจุดที่มีน้ำขุ่น ห้ามนักท่องเที่ยวสวมชุดคล้ายเกล็ดปลา พร้อมประสานผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้าต่างๆแจ้งเตือนแก่นักท่องเที่ยวในเรื่องดังกล่าวด้วย

สำหรับบริเวณตรวัดถ้ำเขาเต่า หาดทรายน้อย เป็นพื้นที่ห้ามล่าสัตว์น้ำ จึงมีความอุดมสมบูรณ์ และบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและคลื่นลมแรง จึงห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ

ส่วนจะดำเนินกับฉลามอย่างไรนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาพฤติกรรมของฉลามกลุ่มนี้ว่าหากินอย่างไร และแพร่พันธุ์อย่างไร ซึ่งจะต้องให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย

ด้าน นาย เพชร มโนปวิตร รองหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ฉลามกัดคนมีโอกาสน้อยมาก เพราะจากสถิติทั่วโลกในแต่ละปีมีฉลามเข้าจู่โจมคนประมาณ 70-80 ครั้งเท่านั้น

ส่วนมาตราการที่หน่วยงานรัฐกำลังดำเนินการถือว่ามาถูกทางแล้ว ที่เก็บข้อมูลว่าฉลามที่พบนั้นมีจำนวน 40-50 ตัวหรือไม่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีทรัพยากรที่สมบูรณ์จึงเป็นพื้นที่ที่ควรอนุรักษ์ และต้องเร่งให้การศึกษา พร้อมสร้างทัศนคติให้กับประชาชนว่า ทะเลที่มีฉลามเราควรจะภาคภูมิใจ เพราะจุดไหนมีฉลามอยู่ชุกชุมจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยก็เพื่อต้องการดำน้ำดูฉลาม และ ตนมั่นใจว่าฉลามประมาณ 90 % ไม่มีพฤติกรรมที่ดุร้าย ถ้าเทียบสถิติการถูกฟ้าผ่ามีโอกาสมากกว่าถูกฉลามกัด 2เท่า และ มนุษย์ไม่ได้เป็นเหยื่อของฉลามโดยตรง

สอดคล้องกับ นายศิริชัย อรุณรักษ์ติชัย ช่างภาพสารคดี กล่าวว่า เรื่องฉลามกัดคนถ้าพูดตามจริงแล้วเป็นไปได้ยากมาก เพราะฉลามกลัวคน ที่ผ่านมาเราเข้าใจกันผิดว่าฉลามเข้ามาจู่โจม แต่จริงๆแล้วฉลามจะไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คน เพราะตนเป็นช่างภาพที่ติดตามถ่ายภาพฉลามมาหลายปี ยอมรับว่าการถ่ายภาพฉลามเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะฉลามจะไม่เข้ามาใกล้คน และ สิ่งที่หลายคนกลัวฉลาม ปัจจัยน่าจะมาจากการดูภาพยนต์เรื่องฉลามจนทำให้หลงเชื่อว่าฉลามดุร้าย ส่วนที่นักท่องเที่ยวโดนกัดนั้นคาดว่าฉลามน่าลองกัดดูว่าสิ่งที่กัดนั้นเป็นอะไรเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นน้ำขุ่น

“เมื่อวานนี้เพื่อนผมได้เดินทางไปสำรวจในพื้นที่หาดทรายน้อย พร้อมถ่ายภาพมาให้ดูจึงเชื่อว่ามีฉลามอยู่บริเวณดังกล่าวจริง เพราะบลูชาร์ค เป็นฉลามที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ห้ามล่าทำให้ตนรู้สึกดีใจมากกับเรื่องนี้ เพราะจากผลการวิจัยพบว่าฉลามเป็นสัตว์ที่ถูกคุกคามมากจนสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ปัจจัยหลักมาจากการประมง” ช่างภาพสารคดีกล่าว

ส่วนตามชายหาดทั่วไปอย่างหัวหิน และพัทยา จะพบฉลามหรือไม่ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ตรงไหนที่มีคนอยู่เยอะจะไม่พบฉลาม และปัจจุบันชายหาดมีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่เหมาะที่จะเป็นที่อยู่ของฉลาม และในทะเลเมืองไทยพบฉลามไม่กี่ที่ สิ่งที่น่ากังวลมากคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างกับการประมงที่ไปคุกคามปลาฉลาม

ชมคลิปได้ที่นี่ >>>>“ช่างภาพสารคดี” เผยนิสัย “ฉลาม” ที่แท้ “กลัวคน” ไม่ใช่ “เพชฌฆาต” เหมือนในหนัง

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ