วันนี้(24 เม.ย.61)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน นำยื่นร้องเรียนกับ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่ามีอำนาจชอบด้วยกฎหมายในการ แจ้งความดำเนินคดี กับพระชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นกรรมการในมหาเถรสมาคมว่ามาเข้าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดรอบที่3 หรือไม่
นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ ตัวแทนกลุ่มอ้างว่า การแจ้งความของพันตำรวจโทพงศ์พร เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะในข้อเท็จจริง ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาฯ ต้องแจ้งต่อที่ประชุมของมหาเถรสมาคมก่อน เพื่อให้เป็นมติของมหาเถรสมาคม ว่าควรลงโทษหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ ทางกลุ่มอ้างว่าการเดินทางมาร้องเรียนครั้งนี้มากันเองในนามกลุ่มที่มีความคิดตรงกัน ไม่ได้มีใบสั่งจากพระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม ขณะที่ ผู้บังคับการ ปปป. ระบุสั้นๆว่า เมื่อมายื่นเรื่องก็จะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา
ด้านนายแพทย์ มโน เลาหวณิช รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นว่า กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหววันนี้ เป็นกลุ่มศิษย์ของฝั่งวัดพระธรรมกาย ที่ออกมาเคลื่อนไหวแทนพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเกี่ยวข้องในกรณีทุจริตเงินทอนวัด โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความน่าเชื่อถือของ พันตำรวจโทรพงศ์พร ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาฯ จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่า ควรถอดสมณศักดิ์พระชั้นผู้ใหญ่ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ
ส่วนประเด็นที่กลุ่มชาวพุทธอ้างว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไม่มีอำนาจมากพอจะตรวจสอบหรือแจ้งความเอาผิดพระชั้นผู้ใหญ่ นายแพทย์มโน เห็นต่างว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ทำถูกต้อง และมีอำนาจตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งหากไม่ทำตามหน้าที่ ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันไม่ปลด พันตำรวจโทพงศ์พร ตามข้อเรียกร้อง โดยมองว่า ยังไม่ได้ทำผิด หรือทำอะไรเกินเลย พร้อมยืนยันว่าการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินทอนวัดรอบนี้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี ยังขอสังคมย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นปัญหา โดยเฉพาะการทุจริตในสำนักพระพุทธศาสนา ซึ่งต้องสอบสวนว่าเงินไปอยู่ที่ไหนบ้าง เพื่อให้เกิดความชัดเจน