เมื่อวันที่ (29 เม.ย.61) พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยในที่ประชุมเครือข่ายภาคีเพื่อการบริหารทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 6 จังหวัดอันดามันว่า ตั้งแต่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือ ทช. จัดตั้งกลุ่มอาสาพิทักษ์ทะเล โดยใช้ประชาชนที่มีอาชีพประมงพื้นบ้านและนักศึกษาเข้าร่วม ตอนนี้สิ่งแวดล้อมใต้ทะเลมีการฟื้นฟูไปในทางที่ดีหลายจังหวัด เช่นที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ที่กลุ่มอาสาพิทักษ์ทะเลชุมชนบ้านบ่อหินช่วยการเพาะเลี้ยงปลูกหญ้าทะเลให้เจริญเติบโตไปแล้วมากกว่า 400 ไร่ใต้ทะเล ซึ่งมีรายงานการพบพะยูนเข้ามาหากิน อาศัยอยู่จำนวน 3 ตัว โดยจังหวัดตรังมีจำนวนพะยูนเพิ่มขึ้นเป็น 177 ตัว
ด้านพลเอกสุรศักดิ์ ยังบอกอีกว่า กลุ่มอาสาพิทักษ์ทะเลจจะต้องมีกฎหมายรับรองสถานะเพื่อมีอำนาจในการทำหน้าที่พิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แต่จะไม่มหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติ
โดยในอนาคตกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งหรือ ทช. มีแนวคิดตั้งศาลาพิทักษ์ทะเล คล้ายกับหอตรวจการณ์ชายฝั่ง ให้อาสาและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าประจำจุดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อเฝ้าระวังผู้กระทำผิดต่อทรัพยากรทางทะเล ซึ่งถ้าอาสาพิทักษ์ทะเลมีกฎหมายรองรับสถานะ การจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือ เบี้ยเลี้ยง และสวัสดิการต่างๆ จะมีความสะดวกมากขึ้นในการเบิกจ่ายจากราชการ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญเพราะเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีจำนวนไม่พอ
