ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกลงมาหนักตลอดในหลายพื้นที่ ทำให้น้ำป่าจากดอยสูงไหลทะลักลงสู่น้ำตกหลายแห่งในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยเฉพาะที่น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว และ เปลี่ยนเป็นสีแดงจากตะกอนดินภูเขาที่ถูกชะล้าง กระแสน้ำยังไหลเชี่ยวแรง
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ต้องสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน ทั้ง ห่วงยาง เชือก รวมทั้งไซเรนมือหมุน และจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลจุดเสี่ยงบริเวณน้ำตกที่มีอยู่ทั้งหมด 10 ชั้น ตลอด 24 ชั่วโมง
นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งห้ามเล่นน้ำและเฝ้าระวังน้ำตกทุกแห่งในเขตอุทยานฯ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปตลอดทั้งวัน ทั้ง น้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก น้ำตกหมอกฟ้า และ น้ำตกมณฑาธาร จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ด้านเจ้าหน้าที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำน้ำกกที่ 1น้ำตกขุนกรณ์ ได้ทำการปิดทาขึ้นน้ำตกขุนกรณ์ เป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเล่นหรืมน้ำตกขุนกรณ์โดยเด็ดขาด เพราะมีฝนตกหนัก เกรงว่าจะเป็นอันตราย ประกอบกับช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าไหลหลาก โดยคาดว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้ง ต่อเมื่อไม่มีฝนตกและสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจหลังวันที่ 4 พฤษภาคม
เจ้าของร้านค้ารายหนึ่งบริเวณน้ำตก บอกว่า ช่วงคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จากนั้นได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงแม่กับลำน้ำกรณ์อย่างรุนแรง จนทำให้แพที่นำไว้บริการนักท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายซึ่งน้ำมีปริมาณมากและไหลอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเก็บแพได้ทัน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนประชาชนในภาคเหนือตอนบน ให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 3 – 7 พฤษภาคม นี้ โดยเฉพาะประชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและที่ลาดเชิงเขา ทีเสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก