“ทรัมป์” สั่งเพนตากอนศึกษาลดทหารในเกาหลีใต้

สื่อสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เข้ารับการชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า  ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน พิจารณาแนวทางเกี่ยวกับการปรับลดกำลังพลที่ประจำการในเกาหลีใต้ ที่ปัจจุบันมีจำนวน 28,500 นาย  อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เป็นแหล่งข่าวยืนยันว่าการพิจารณาปรับลดกำลังทหารดังกล่าวไม่มีเจตนาเพื่อสร้างข้อต่อรองกับ คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดว่าจะพบกับทรัมป์ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่เป็นเพราะว่าการที่ คิม จอง-อึน ได้บรรลุข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์กับ ประธานาธิบดี มุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ทำให้ความจำเป็นที่สหรัฐฯจะต้องคงกำลังทหารไว้ในคาบสมุทรเกาหลีลดน้อยลงเป็นอย่างมาก

โดยที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า สหรัฐฯ ไม่ได้รับการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายอย่างเพียงพอในการดูแลกำลังทหารดังกล่าว และแม้ว่าทหารอเมริกันได้ประจำการอยู่มานานหลายทศวรรษ แต่ก็ล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือกลายเป็นภัยคุกคามนิวเคลียร์ได้

นอกจากนี้ คำสั่งของทรัมป์ ที่มีต่อเพนตากอนยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯ กำลังเจรจากับเกาหลีใต้เกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายในการคงกำลังทหารไว้ ซึ่งตามข้อตกลงฉบับปัจจุบันที่จะหมดอายุสิ้นปีนี้ เกาหลีใต้จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายประมาณ 800 ล้านดอลลาร์หรือ 25,000 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ขณะที่เมื่อวานนี้  คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ต้อนรับ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ที่อยู่ระหว่างการเยือนกรุงเปียงยาง โดยได้กล่าวขอบคุณจีนที่มีบทบาทในการสร้างสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ผนายคิม จอง-อึน ยังระบุว่าเกาหลีเหนือยินดีที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  พร้อมย้ำความตั้งใจที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี  ส่วน นายหวัง อี้ ได้กล่าวชื่นชมการตัดสินใจที่เด็ดขาดของเกาหลีเหนืออันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี  พร้อมย้ำว่าจีนสนับสนุนการประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ รวมถึงการเสริมสร้างเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ และการแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงโดยชอบธรรมเพื่อสนับสนุนการปลดอาวุธนิวเคลียร์