การฝึกกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงในปี 2561 ที่เป็นการฝึกรบในภาคพื้นดิน ระหว่างบัญชาการนาวิกโยธิน กับ กองพลทหารราบที่ 2รักษาพระองค์ (พล.ร.2รอ.) ของกองทัพบก ที่นำยุทโธปกรณ์หลักๆเข้ามาร่วมฝึกด้วยเช่น รถเกราะล้อยาง BTR – 3E1 ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV, รถหุ้มเกราะติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังขนาดหนัก : HMMWV, ปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร ปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ BELL 212 และ EC 645 และรถถัง T-84 OPLOT
โดยสมมุติสถานการณ์ให้กองกำลังนาวิกโยธินทำการรบตรึงกำลังบริเวณแนวชายแดน และขอกำลังทางบกจากกองทัพบกเข้าสนับสนุน
เริ่มต้นที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่เรียกว่า “ชุดนำทาง”จำนวน 6นายแทรกซึมทางอากาศ เข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการที่ลึกเข้าไปในพื้นที่ยึดครองของข้าศึก โดยการโดดร่มแบบ HALO ที่ความสูง 6,000 ฟิต และทำการเปิดร่มที่ความสูง 3,000 ฟิต จากเครื่องบินลำเลียงแบบ Bell 212
จากนั้นจะทำการยึดภูมิประเทศสำคัญที่สามารถเป็นฐานยิง พร้อมแจ้งข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับมอบไปยังหน่วยเหนือเช่น ที่ตั้งของสถานที่สำคัญ คลังสนับสนุน เพื่อให้หน่วยเหนือวางแผนในการโจมตี
จากนั้น จะเข้าวางตัวในพื้นที่สูงข่ม เพื่อทำการเฝ้าตรวจ และต่อต้านการซุ่มยิงจากพลซุ่มยิงของฝ่ายข้าศึก พร้อมยิงทำลายเป้าหมายสำคัญ เช่น ผู้นำของฝ่ายข้าศึก คลังน้ำมันเชื้อเพลิง คลังอมภัณฑ์ โดยใช้ปืนซุ่มยิงขนาด .50 นิ้ว
ต่อมาจะมีการโจมตีทางอากาศ พร้อมยิงทำลายด้วยปืนใหญ่สนาม ร่วมกับปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 40/60 มิลลิเมตร
ในขณะที่อาวุธสนับสนุนได้ระดมยิงไปยังเป้าหมายฝ่ายข้าศึก ทางด้านปีกซ้าย กองร้อยทหารราบยานเกราะจาก ร.21 พัน 1 รอ. เคลื่อนที่ด้วยยานเกราะล้อยาง BTR -3E1 สมทบด้วย 1 หมวดรถถัง จำนวน 4 คัน จากม.พัน 2 พล.ร.2รอ. เคลื่อนที่ผ่านแนวออกตี
ส่วนทางด้านปีกขวา กองร้อยทหารราบยานเกราะจากกองพลนาวิกโยธิน จัดกำลังจาก เคลื่อนที่ด้วยยานเกราะล้อยาง BTR-3E1จากกองพันรถถัง รถสะเทินน้ำสะเทินบก เคลื่อนที่ผ่านแนวออกตี
เมื่อทั้ง 2 ส่วน ยิงประกอบการเคลื่อนที่ สลับกันเป็นฐานยิงจนสามารถทำลายฐานที่มั่นของข้าศึกได้ จนทหารราบ เข้ายึดครองพื้นที่ได้ จะยิงพลุถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสัญญาณให้ทราบว่า ทหารราบได้ทำลายข้าศึกหมดแล้ว
การฝึกในลักษณะนี้จะฝึกทุกปีเพื่อพัฒนากำลังพลภาคพื้นดินของกองทัพเรือสามารถปฏิบัติการรบร่วมกับกำลังพลของกองทัพบกได้อย่างมีประสิทธิภาพ