“เสถียร สังฆธรรม” เจ้าของบ้านที่เกิดไฟไหม้ปริศนาหลังแรก เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า ตอนนี้ไฟไหม้มา 1 เดือนเต็มๆแล้ว โดยครั้งแรกที่เกิดขึ้นนั้นจะเกิดได้กลิ่นก่อน จากนั้นก็เห็นควันและก็เกิดเปลวไฟเกิดขึ้นเราก็ลุกขึ้นไปดับ กลิ่นไหม้เหมือนไหม้ถุงพลาสติก ส่วนมากจะไหม้ที่ที่มีถุงพลาสติกอยู่ ที่เป็นไนลอน ใยสังเคราะห์ หมอน มุ้ง ที่ รวมถึงมีการลุกไหม้ในตู้เย็น ห้องแอร์ด้วย บ้านไม่ได้มีใครทำอะไรเกี่ยวกับไฟ ยืนยันว่าไม่มีใครไปเล่น ที่ผ่านมานายอำเภอแก่งหางแมวมาที่บ้านก็ประสบเหตุด้วยตัวเองก็ยังมาช่วยดับไฟด้วย แล้วก็มีการตรวจสอบไฟฟ้าก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่กรมธรณีวิทยาก็ได้มีการนำดินและน้ำไปตรวจแต่ยังไม่พบอะไร
ขณะที่วันนี้ก็มีตำรวจพิสูจน์หลักฐานจันทบุรีได้มาเก็บเขม่าเพลิง ร่องรอยการไหม้ไป และเอาดินที่ขุดบ่อบาดาลไปด้วย เพราะได้เจาะบ่อบาดาลในช่วงก่อนเกิดเหตุ เลยคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นจากก๊าซที่เจาะขุดบ่อบาดาล เพราะวิถีการไหม้เกิดขึ้นเหมือนจุดจากก๊าซ ไม่เหมือนเอาไฟแช็คจุด ทุกครั้งจะได้กลิ่นเหมือนๆกัน
“ตอนนี้ก็ต้องขนของออกมานอกบ้านหมดแล้ว แต่ละวันไม่ได้ทำงานแล้วเพราะต้องคอยเฝ้าบ้าน จะไหม้เฉพาะบ้าน บางครั้งก็ซ้ำจุดบ้าง ไม่ซ้ำจุดบ้าง กลางคืนจะไม่ค่อยไหม้ จะไหม้เวลา 6โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม กลางวันก็อยู่ไม่ได้ กลางคืนก็ออกมาอยู่ข้างนอก เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ นอนๆอยู่แล้วไฟไหม้หมอน ลูกนอนอยู่ไฟไหม้กางเกง ตอนนี้ติดกล้องวงจรปิดได้ 3 วัน แต่ไฟยังไหม้ไม่ในจุดที่กล้องไม่ได้ติดอยู่ เพราะเกิดไฟไหม้มา 1 เดือนจนของหมดบ้านแล้ว เลยคิดว่าจะนำกล้องไปติดไว้ที่บ้านพี่สาวที่เริ่มลุกไหม้ใหม่ๆ อยู่”
เจ้าของบ้านที่เกิดไฟปริศนารายนี้บอกว่า ที่ผ่านมาเคยมีข่าวว่าคนไปจุดเอง ก็ไปหาข้อมูลไป ว่าแต่ละที่เกิดจากอะไร ที่คนจุดเกิดจากพัทลุง ยืนยันว่าไม่มีคนไปแอบจุด มีแต่สันนิษฐานว่าไม่มีใครฟันธง บางคนก็บอกเป็นไฟผี แต่ตนไม่เชื่อตนเชื่อวิทยาศาสตร์ อยากให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้จริงๆเข้ามาช่วยหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ว่า หลักการเกิดไฟไหม้เป็นปฏิกิริยาทางเคมีที่ต้องมี 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1.เชื้อเพลิง เช่น เสื้อผ้า พลาสติก ที่อยู่ในบ้าน 2. ออกซิเจน คือ อากาศรอบๆบ้าน 3. พลังงานความร้อน ถ้าเกิด 3 สิ่งนี้จะเกิดไฟขึ้นมา แต่ที่เห็นในภาพข่าว เราเห็น เสื้อผ้า พลาสติก และมีอากาศ แต่ที่ยังไม่เห็นคือพลังงานความร้อน แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านสงสัยคือเกิดพลังงานความร้อนแล้วเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร โดยพลังงานความร้อนเกิดได้ 2 แบบคือ แบบที่เกิดจากธรรมชาติเอง และแบบที่มนุษย์ทำขึ้น
อาจารย์ภาควิชาเคมี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเวลามีข่าวพบไฟปริศนา ตั้งแต่ที่พัทลุงเราก็หาแหล่งพลังงานความร้อนที่มาจากไฟแช็ค ที่ถูกซ่อนไว้ที่เสื้อชั้นในของลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน กรณีที่จันทบุรีต้องช่วยกันหาพลังงานความร้อน วิธีการหาที่ง่ายที่สุด คือการติดกล้องวงจรปิด จะได้ทราบว่าเกิดอย่างไรขึ้นบ้าง ส่วนเรื่องเชื้อเพลิงบ้านหลังนี้ มีเชื้อเพลิงหลายอย่างแต่ทำไมไฟถึงไปเลือกไหม้กับเศษผ้า เศษพลาสติก ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น ผ้า กับ พลาสติกจะมีจุดวาบไฟจะสูงกว่าไม้ โดยจุดวาบไฟคือ ความร้อนพลังงานที่ทำให้มันติดไฟได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดกับไม้ก่อนพลาสติกหรือผ้า สิ่งที่เราเห็นคือเห็นคือไฟไหม้แล้ว แต่ไม่เห็นตอนที่มันเริ่มไหม้ ถ้าเกิดกล้องวงจรปิดจะรู้เลยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่เจ้าของบ้านคาดว่าน่าจะเกิดจากบ่อบาดาลนั้น มันจะต้องติดจากสิ่งอื่น ใต้พื้นพิภพจะต้องมีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “แคลเซียมคาร์ไบด์” หรือว่าก้อนแก๊ส เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำ ที่เรียกว่า “ก๊าซอะเซทิลีน” จะมีจุดวาบไฟต่ำ เช่นก๊าซที่ใช้เชื่อมโลหะ แต่ก๊าซเฉยๆ ก็ติดไฟไม่ได้ ต้องมีแหล่งพลังงานความร้อน ถ้าบอกว่ามาจากใต้พื้นพิภพเลยก็ไม่ใช่ นั่นคือเชื้อเพลิงที่ออกมา ก๊าซไม่ใช่พลังงานความร้อนด้วยตัวมัน แม้มันจะร้อนก็ไม่ร้อนเท่าจุดวาบไฟที่สามารถทำให้ติดไฟได้ มันต้องมีแหล่งพลังงานความร้อนที่สูงกว่าจุดวาบไฟ หรือทำให้เกิดประกายไฟ
“ก๊าซที่มาจากใต้พื้นพิภพมันก็คือเชื้อเพลิง เมื่อเชื้อเพลิงมาเจอเชื้อเพลิงที่เป็นเศษผ้า หรือพลาสติก ก็ไม่มีทางไหม้ มันต้องมีประกายไฟก่อน แล้วใครละทำให้เกิดประกายไฟ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่ก็ต้องหา วิธีหาคือติดกล้องวงจรปิด นอกจากนี้ในทางการแพทย์มีโรคหนึ่งที่น่าสนใจคือ “โรคชอบจุดไฟ” (Pyromania) ซึ่งเป็นการจุดไฟเพื่อระบายความเครียด โรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งก็ต้องหาสาเหตุกันต่อ” รศ.วีรชัย ย้ำ