วันนี้(15 พ.ค.61)ผู้สื่อข่าวรายงาน เครื่องจักรสำหรับแปรรูปขยะให้เป็นพลังงาน ภายในโรงคัดแยกและกำจัดขยะของเทศบาลตำบลเชียงคานได้ถูกปล่อยทิ้ง หลังไม่สามารถเดินเครื่องใช้งานได้จริง มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่คอยอุ่นเครื่องเดือนละครั้งเท่านั้น
เครื่องแปรรูปพลาสติกเป็นน้ำมัน ที่กำหนดใช้ความร้อนในการเผาพลาสติกที่อุณหภูมิ 500 องศาเซลเซียส แต่เมื่อเปิดเครื่องทำงานจริง กลับพบว่าความร้อนสูงเกินกำหนด โดยอุณหภูมิสูงถึง 1200 องศาเซลซียส ทำให้กลัวว่าเครื่องจะระเบิดจึงหยุดเดินเครื่อง นอกจากนี้ยังมีเครื่องเผาถ่าน และทำน้ำส้มควันไม้ เมื่อผลิตออกมาแล้วก็ไม่มีใครกล้าใช้ เพราะผลิตจากขยะ ทำให้กลัวว่าอาจเกิดมลพิษ
เครื่องจักรสำหรับแปรรูปขยะให้เป็นพลังงานทั้งหมดนี้ เป็นหนึ่งในโครงการโรงคัดแยกและกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลตำบลเชียงคาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. กับทางท้องถิ่น เพื่อกำจัดและแปรรูปขยะเป็นพลังงานเพื่อเพิ่มมูลค่า
แต่หลังจากก่อสร้างและดำเนินการได้เพียง 3 ปี กลับทำได้เพียงคัดแยกขยะเท่านั้น ไม่สามารถแปรรูปขยะเป็นพลังงานได้ตามที่กำหนด และเมื่อตรวจสอบภายในโรงงานคัดแยก ก็พบว่ายังคงใช้คนในการแยกขยะที่มีประมาณมากกว่าวันละ 20-30 ตัน ทำให้กว่าจะแยกพลาสติกและขยะรีไซเคิลออกมาได้ ต้องใช้เวลานาน ส่งผลให้แต่ละปีมีขยะตกค้างกว่า 4000 ตัน และขยะที่ตกค้างส่วนใหญ่ก็ถูกนำไปกองทิ้งไว้บริเวณโรงงานคัดแยก ส่วนขยะที่คัดแยกแล้วก็ไม่มีผู้รับซื้อ เพราะระยะทางไกล ไม่คุ้มค่าขนส่ง จนเกิดเป็นปริมาณขยะสะสมอยู่ในปัจจุบัน