ฝากขังเพิ่ม 8 ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ร่วมกับ “พ.ต.ท.สันธนะ”

วันนี้(16 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ประกอบด้วย นายชนะโชติ สุขสุคนธ์, นายวรรณชัย ใจเรือง, นายวันเพ็ญ ผิวดำดี, นายประนอม แก้วสวัสดิ์, นายกฤษณะ หลำรอด, นายอดิศักดิ์ จันทร์ศรี, นายอนุชา วรเดช และนายอนุ สุขสุคนธ์ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์เก็บค่าคุ้มครองผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง ถูกพนักงานสอบสวน สน.ดอมเมือง คุมตัวมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก พร้อมแนบท้ายคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

ส่วนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นางพรรณี ประยูรรัตน์ ภรรยาพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ประธานที่ปรึกษา บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอ้างว่า ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการของตำรวจ หลังเข้าค้นบ้านพัก และคอนโดจนไม่สามารถเข้าไปพักได้

นางพรรณี อ้างว่า ถูกดักฟังโทรศัพท์มือส่วนตัว และ ถูกเจ้าหน้าที่นำบัญชีธนาคารของครอบครัวไปตรวจสอบ เชื่อว่าครอบครัวกำลังถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งกังวลว่าสามีจะได้รับอันตราย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม

ส่วนประเด็นที่พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ประธานที่ปรึกษาบริษัทตลาดใหม่ดอนเมือง จะแจ้งความกับ 3 นายพลตำรวจหนึ่งในนั้นมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมอยู่ด้วย พล.ต.อ.วิระชัย ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และ ไม่ได้กลัวถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.สันธนะ ไม่ได้เป็นการเอาคืน หรือกลั่นแกล้ง จากกรณีที่พ.ต.ท.สันธนะเคยฟ้องร้องกันในอดีต

พล.ต.อ.วิระชัย ยืนยันว่า การบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นตลาดของใคร แต่ทราบว่ามีสินค้าผิดกฎหมายจำหน่ายอยู่ ซึ่งการบุกจับร้านค้า เริ่มก่อนที่พพ.ต.ท.สันธนะ จะปรากฎตัว และอ้างเป็นที่ปรึกษาตลาดแห่งนี้ โดยในระหว่างที่ตรวจค้นพ.ต.ท.สันธนะ ไม่เคยต่อสายตรง ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.สันธนะ ส่วนความชัดเจนเรื่องการถอดยศ ตามหลักเกณฑ์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคดีของบุคคลผู้นั้นถึงที่สุด หรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายประพฤติชั่วร้ายแรง

ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเจ้าของผลิตภัณฑ์เมจิกสกิน ตำรวจเตรียมอายัด รถยนต์หรู 30 คัน ที่อยู่ในการครอบครองของนางวรรณา พวงสน และนายกร พวงสน สองสามีภรรยาที่ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้  โดยนางวรรณา มีรถยนต์หรูไว้ในครอบครอง 15 คัน มูลค่ารวม 40 ล้านบาท ส่วนนายกร มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์หรู 15 คัน มูลค่ารวม 28 ล้านบาท รวมมูลค่ารถยนต์ที่สองสามีภรรยาครอบครอง ทั้งหมด 68 ล้านบาท ตำรวจได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียน เพื่อขอให้แจ้งถึงพนักงานสอบสวน หากมีการโอนรถของนางวรรณาและนายกร 

พลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีความพยายามยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน นำรถยนต์ไปซุกซ่อน ทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในเครือญาติ กลุ่มนักธุรกิจ เต็นท์รถ และเร่งรีบขาย หากใครมีส่วนช่วยเหลือ ครอบครองหรือรับซื้อทรัพย์สิน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน ส่วนผู้ที่รับซื้อไปก่อนหน้านี้จะต้องมาแจ้งพนักงานสอบสวน และดูเจตนารับโอน

ขณะที่การขยายพลคดีที่เกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ตำรวจออกหมายเรียก ดารานักแสดงที่รีวิวสินค้า เพิ่มเติมอีก 6 คนได้แก่ นายนิศามณี เลิศวรพงศ์, เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, ศรีริต้า เจนเซ่น, รถเมย์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ น้ำชาชีรณัฐ ยูสานนท์ และเคนภูภูมิ พงศ์ภาณุ ทั้งหมดต้องมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขณะที่การแอบอ้างองค์กรและบุคคลทางการแพทย์ วันนี้บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลในเครือ BDMS ออกชี้แจงหลังบริษัทได้ตรวจสอบพบว่า “มีบุคคลแอบอ้างจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก” โดยนำภาพถ่ายของบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องหมายการค้า B+ มาประกอบการโฆษณาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเว็ปไซต์อีกจำนวนหนึ่ง บริษัทฯ ระบุว่า “สินค้าดังกล่าวไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ” และบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น จึงขอให้โปรดระมัดระวังและอย่าหลงเชื่อ

อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า เบลล่า ราณี แคมเปน หุ้นส่วนร่วมกับมะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล เจ้าของผลิตภัณฑ์ บีเคิร์ฟว จะเข้าให้ปากคำกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หลัง อย.ระบุว่า การโฆษณาในผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้มีข้อความที่เกินจริง