การตรวจสอบงบประมาณการดำเนินการโรงคัดแยก และกำจัดขยะมูลฝอย พบว่างบประมาณถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ การก่อสร้างอาคาร และการติดตั้งระบบการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน รวมเป็นเงิน 32 ล้าน 5 แสน 8 หมื่น 3 พันบาท
โดยงบประมาณแยกออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนของเครื่องจักรทั้งหมด ได้รับสนับสนุนจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. รวม 26 ล้านบาทเศษ อีกส่วนเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ใช้งบประมาณของเทศบาลเชียงคาน รวม 6 ล้านบาทเศษ
แต่หลังเปิดดำเนินการเพียง 3 ปี เครื่องจักรหลายตัวก็ทยอยชำรุด เช่น เครื่องแปรรูปพลาสติกให้เป็นน้ำมัน ไม่สามารถเดินเครื่องได้ เพราะความร้อนสูงเกินเกินกำหนด เครื่องผลิตไบโอก๊าซ ตัวปั๊มเสีย จึงต้องหยุดเครื่องไว้ก่อน ปัจจุบันสามารถผลิตได้เพียงปุ๋ยชีวภาพเท่านั้น
ก่อนจะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว ในเขตเทศบาลตำบลเชียงคาน มีปริมาณขยะเฉลี่ยวันละ 3-4 ตัน แต่หลังปี 2550 ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นเป็น 6-8 ตัน ต่อวัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเทศกาล และสุดสัปดาห์ ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10-15 ตัน ที่ผ่านมาใช้วิธีกำจัดด้วยการฝังกลบ แต่หลังโรงคัดแยกเปิดทำการ ที่นี่ก็ต้องรองรับขยะเพิ่มจาก อบต.อีก 6 แห่งใน อ.เชียงคาน ที่ส่งเข้ามากำจัด ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว
มาตรการแก้ปัญหาขยะเบื้องต้น ทางจังหวัดกำหนดแนวทาง 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน จะเร่งกำจัดขยะตกค้างกว่า 4,000 ตัน โดยการฝังกลบอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้รบกวนประชาชน ระยะกลาง จะใช้เครื่องจักรที่มีให้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งรถตัก สายพานลำเลียง หรืออุปกรณ์อื่น และในระยะยาว ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันลดปริมาณขยะให้มากที่สุด