โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยอรุณอัมรินทร์ 53 เขตบางพลัด มีป้ายติดหน้าตึกว่า บริษัท ฮานิว โคเรีย จำกัด เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ถูกใช้เป็นสำนักงานและโรงงานผลิต มีสารตั้งต้นผลิตเครื่องสำอางจำนวนมาก โดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกำลังตำรวจใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงในการตรวจค้น ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้รับผลิตให้สินค้าให้กับเมจิก สกิน และ ตรีชฎา แต่จากการตรวจค้นไม่พบผลิตภัณฑ์เครือเมจิกสกินหรือตรีชาฎา พบเพียงสารตั้งต้น และเครื่องผลิตครีมขนาดใหญ่เท่านั้น
แต่จากการสอบสวนพนักงานทราบว่า บริษัทมีแหล่งเก็บสินค้าเป็นตึกแถวติดกัน 3 ตึก ตั้งอยู่ตรงข้ามกันอีกแห่ง จึงเข้าตรวจค้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การขอเปลี่ยนสถานที่ตั้งผลิตสินค้า 3 – 4 ครั้ง ของเมจิก สกินอาจจะเกี่ยวข้องกับการนำสินค้าที่ไม่สามารถจำหน่ายตามท้องตลาดมาเปลี่ยนฉลากใหม่ เพื่อให้สามารถวางขายได้ต่อไปหรือไม่
เมื่อตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลลูกหนี้ของบริษัท ฮานิว โคเรีย พบว่า บริษัทเมจิกสกิน จำกัด มีหนี้ค้างชำระบริษัท ฮานิว รวม 27 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ติดหนี้อยู่หลักแสนบาท ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าทั้งสองบริษัทมีความเชื่อมโยงกัน และ เมจิกสกิน อาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ ฮานิว โคเรีย
ด้านนางสาวปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ กรรมการบริษัทฮานิว โคเรีย ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจากเมจิก สกิน ขอซื้อเนื้อครีมทารักแร้ 3 ตัน ไปทดลองจำหน่าย ต่อมาได้ทำสัญญาว่าจ้างเป็นสถานที่ผลิตสินค้าให้ “ตรีชฎา” แต่เมื่อบริษัทตรวจสอบเลข อย. พบว่าไม่ถูกต้อง จึงส่งกลับไป ต่อมา บริษัท เมจิก สกิน นำแบรนด์ตัวใหม่มายื่นให้บริษัท ผลิตให้อีกครั้ง ส่วนยอดหนี้ 27 ล้านบาท ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
หลังจากนี้ตำรวจจะนำคอมพิวเตอร์ของบริษัทแห่งนี้ไปตรวจสอบหาข้อมูลอย่างละเอียดและเรียกผู้บริหารเข้าสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นฐานโฆษณาเกินจริงที่กองบังคับปราบปรามภาย
โดยก่อนเข้าค้นโรงงานแห่งนี้ ตำรวจยังเข้ายึดรถยนต์พอร์ช ป้ายแดง ที่จอดไว้ในลานจอดรถสถาน อาบ อบ นวด แห่งหนึ่ง ย่านถนนอรุณอัมรินทร์ หลังตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลลานจอดรถว่า พบรถยนต์ต้องสงสัยมาจอดทิ้งไว้ ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนนี้ ตเบื้องต้นพบเป็นรถสวมป้ายทะเบียนปลอม เพราะพบสำเนาคู่มือรถ เป็นรถยนต์ทะเบียนขาว หมายเลข 5 กฉ 6095 กรุงเทพมหานคร ระบุชื่อผู้ครอบครอง คือนายอภิวัส พงศ์พัฒนะนุกุล 1 ใน 7 คน ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีเมจิกสกินและยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
ส่วนความเคลื่อนไหวที่กองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมญาติ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง ผู้เสียชีวิต ที่แพทย์ระบุว่าพบสารไซบูทรามีนในร่างกาย จนเสียชีวิต เมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เข้าพบ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พูลสวัสดิ์ ผู้กำกับการสอบสวนกองกำกับการ 4 บก.ปคบ.เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่อจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ลีนอีก พร้อมอ้างว่าไม่มั่นใจการทำคดีของตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี หลังคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร