ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 20พ.ค.61 มีการนำคลิปภาพเหตุการณ์ลูกเรือประมง ว.เกียรติวารินทร์ 3 ที่มีฉลามวาฬขนาดยักษ์ ความยาวลำตัวกว่า 5 เมตร หนักประมาณ 1.5 ตัน ติดอวน บริเวณระหว่างเกาะพีพีกับเกาะเขียว ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยลูกเรือใช้วิธีกระโดดลงไปในน้ำ เพื่อกดระดับอวนให้ต่ำลง จนเห็นตัวของฉลามวาฬลอยอยู่เหนือในเหนือระดับอวน หลังพยายามอยู่ราว 20 นาที ฉลามวาฬก็สามารถออกจากอวนได้สำเร็จ ท่ามกลางความดีใจลูกเรือประมงทุกคน โดยคลิปภาพนี้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่จ.ภูเก็ต
ซึ่งนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจ.กระบี่ ตั้งข้อสังเกตว่า วิธีการช่วยเหลือที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว แตกต่างจากเรือประมงในน่านน้ำจ.ภูเก็ตที่กำลังปรากฎเป็นข่าวอย่างสิ้นเชิง เพราะการลากอวนทั้งที่รู้ว่ามีฉลามวาฬติดอยู่และใช้เชือกผูกหางฉลามวาฬก่อนยกขึ้นเรือ ไม่ใช่วิธีการช่วยฉลามวาฬตามหลักการที่ควรจะทำ จึงเชื่อว่า เรือประมงลำดังกล่าว อาจไม่ได้มีเจตนาช่วยเหลือฉลามวาฬตามที่กล่าวอ้าง
จากข้อมูลทางกฎหมาย ฉลามวาฬ เป็นสัตว์คุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนละคุ้มครองสัตว์ป่า และยังเป็นสัตว์ที่ห้ามทำประมง ตามพระราชกำหนดการประมง ดังนั้น ฉลามวาฬจึงเป็นสัตว์ที่ถกห้ามนำขึ้นเรือประมงโดยเด็ดขาด ทำให้เกิดคำถามว่าเจตนาของเรือประมงที่อ้างว่า ฉลามวาฬมาติดอวนที่ จ.ภูเก็ต คืออะไรกันแน่ เพราะในคลิปที่ปรากฏตั้งแต่ต้นพบว่า ฉลามวาฬถูกยกขึ้นมาอยู่บนเรือประมงทั้งตัว
