วันนี้ (21 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กรณีผู้ค้าหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวรุกล้ำทางเท้าและลามลงมาถึงช่องจราจรเกือบ 2 ช่องทาง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทางเท้าและผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนมาก ซึ่งพื้นที่บริเวณนั้นทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ทาง กทม.ไม่มีสิทธิ์เข้าไปจัดระเบียบใด ๆ ทำได้เพียงประสานขอความร่วมมือ รฟท.ให้จัดระเบียบและควบคุม ทั้งนี้ได้ประชุมกับผู้แทน รฟท. ได้ข้อสรุปคือ รฟท.จะทำหนังสือประสานขอความร่วมมือให้ทาง กทม.เข้าไปจัดระเบียบ และจะนัด รฟท. สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตจตุจักร สน.พหลโยธิน ทหาร กอ.รมน.กทม. ตัวแทนห้างเดอะวัน (เซ็นทรัล) และตัวแทนผู้ค้า มาร่วมกันหาทางออกถึงปัญหาดังกล่าว
ล่าสุด นายสกลธี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียกผู้ค้าและตัวแทนมาทำความเข้าใจ โดยทาง กทม. จะเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าจุดไหนผิดกฎหมายจะไม่อนุญาตให้ขาย และพูดคุยกับ รฟท. ขณะนี้ได้สั่งให้ สำนักงานเขตจตุจักร ร่วมกับสำนักการโยธาเข้าไปสำรวจและทำผังใหม่ เพราะแต่เดิมโซนที่อนุญาตให้เข้าไปขายได้มีอยู่ประมาณ 70 ช่อง ซึ่งผู้ค้าทั้งหมดมีกว่า 100 คน จึงจะทำการจัดระเบียบใหม่ ออกแบบเพื่อหาจุดที่เหมาะสม ประกอบกับให้ รฟท.เข้ามาดูว่าจะสามารถขยายได้อีกหรือไม่
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ระหว่างนี้ กทม.จะอนุโลมให้ผู้ค้าเดิมสามารถค้าขายต่อไปได้ก่อน 10-14 วัน แต่จะส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปดูแลความเรียบร้อยไม่ให้ร้านค้ารุกล้ำมาบนถนน ระหว่างนั้นหากตกลงเรื่องผังใหม่และจำนานผู้ค้าเสร็จเรียบร้อย จะทำการคืนพื้นผิวจราจรและทางเท้าให้ประชาชนได้ทันที และหลังจากนี้หากมีผู้ค้าฝ่าฝืนตั้งแผงขายของจะมีโทษตามกฎหมายปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท
“คงเป็นการปล่อยขายกันมานาน และมีการจัดทำกันมาหลายครั้ง ตนคิดว่าถ้าผู้ค้าไม่ได้มีการจ่ายผลประโยชน์ให้ใครก็ตามคงจะขายลำบาก ก็เลยมีกลุ่มคนเข้าไปมีเกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์ในการเก็บเงินผู้ค้า เขาถึงเข้าใจว่ายังมีสิทธิ์ขายได้ ตนก็ถาม รฟท. เขาก็บอกไม่รู้เรื่อง ถามสำนักงานเขตจตุจักร ก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะว่าเป็นที่ของ รฟท. เลยไม่รู้ว่าใครได้ผลประโยชน์กันแน่ แต่ตนยืนยันว่าหลังจากนี้ไม่ต้องสนใจเรื่องจ่ายผลประโยชน์ทั้งสิ้น คือเอามาเข้าระบบและให้คุยกับ รฟท. โดยตรง” นายสกลธี กล่าว
