ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด เผยภาพขณะชายไทยอายุระหว่าง 35 - 38 ปี 2 คน ที่ ท่าเรือบ้านเพ ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นหลักฐานที่ ตำรวจสืบสวนภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 3 ใช้ติดตาม เชิญชายทั้ง 2 คน ในภาพมาให้ข้อมูล เพราะสถานที่นี้เป็นอีกแห่ง ที่กลุ่มชาวจีน แก๊งเรียกค่าไถ่ 10 ล้านบาท นำหญิงสัญชาติเดียวกัน มากักขัง ระหว่างรอเรียกเงินค่าไถ่
ชาย 2 คนนี้ ให้การว่า ได้ค่าจ้างวันละ 1,000 บาท ต่อคน จากนางสาววรรณษิการ เติมธนาภัทร 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ให้มาเฝ้าหญิงชาวจีน โดยอ้างไม่ทราบที่มาว่า เป็นการอุ้มรีดค่าไถ่ แต่ยอมรับว่าเห็นหญิงไทยคนนี้ใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะหญิงชาวจีน ตำรวจจึงเก็บรวบรวมเป็นข้อมูล สำหรับสำนวนคดี
สอดคล้องกับคำยืนยันของ หญิงจีนผู้เสียหายที่ระบุว่า ชาย 2 คนนี้ อยู่ในกลุ่มคนไทย ที่ร่วมกันกักขังรวมทั้ง ย้ายตัวเธอไปกักขังไว้อีกสถานที่หนึ่ง ระหว่างมีการเรียกค่าไถ่
ส่วนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 นาย ที่ ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด ล่าสุด พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า 1 ในผู้ก่อเหตุ คือ ดาบตำรวจ นิพนธ์ พุทธรักษา ที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ พฐ. เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพยาน ประกอบกับพบว่าตำรวจนายนี้มีพฤติกรรมลักษณะข่มขู่และกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวหลายครั้ง แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด กระทั่งมาร่วมทำผิดครั้งนี้อีก ทำให้สามารถสั่งให้ออกจากราชการได้ทันที
นอกจากนี้ ได้ยื่นขอศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 6 คนร้าย รวมเป็นทั้งหมด 11 ราย ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยทั้ง 6 คน แบ่งหน้าที่กันทำงาน เช่น ขับรถตู้ เจ้าของบ้าน เจ้าของรีสอร์ท ที่นำตัวผู้เสียหายไปกักขัง