จากกรณีคลิปเหตุการณ์ที่แม่ของหญิงสาวอายุ 16 ปีได้ไปติดตามตัวลูกสาวที่บ้านพักของครอบครัวหัวร้อน จนเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นที่บ้านในจังหวัดนนทบุรี ล่าสุดแม่หญิงสาวคนดังกล่าวได้ เข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ในข้อหาพรากผู้เยาว์
แม่หญิงสาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ตนได้เดินทางไปรับลูกสาวที่บ้านของครอบครัวดังกล่าว เนื่องจากลูกสาวโทรมาบอกให้ตนไปรับกลับ เพราะไม่อยากอยู่ที่นั้นแล้ว เมื่อไปลูกสาวร้องไห้ฟูมฟายลงมา ส่วนเหตุที่มีการชุลมุนวุ่นวายตอนนั้นคือ ตอนแรกที่เรียกให้เปิดประตูไม่มีใครเปิดเงียบกันทั้งบ้าน แต่ซักพักก็พากันลงมาทั้งบ้าน และพูดจาไม่ดีเหมือนที่ปรากฏในคลิป ส่วนลูกสาวก็ได้แต่ร้องไห้ พอตำรวจมาก็เคลียไม่ได้เลยให้ไปคุยกันที่โรงพักแต่เขาไม่ไป
แม่หญิงสาว เล่าต่อว่า จึงลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ที่ สภ.บางศรีเมือง จากนั้นก็กลับมาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ และตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกไปที่นนทบุรี แต่ว่าครอบครัวนี้ไม่ได้อยู่ที่นั้นแล้ว หมายเรียกเลยไม่ได้รับการตอบกลับ ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว
ความต้องการของตนตอนนี้คือต้องการตัวลูกสาวกลับมา อยากให้กลับมาบ้าน มาอยู่กับแม่ หากเขาไม่กลับมาเราก็ต้องติดตาม เอาตัวกลับมาให้ได้ ไม่อยากให้ลูกสาวอยู่กับครอบครัวนั้น เห็นคลิปหลายคลิปที่ผ่านมา รับไม่ได้นึกถึงตอนนั้นทีไรมันรู้สึกสะเทือนใจ และคำพูดที่ลูกสาวบอกว่า พ่อขอมีอะไรด้วย คือรับไม่ได้ ยิ่งไปเห็นสภาพที่ไปอยู่บ้านรวมกันหลายคน มีห้องแค่สองห้อง ไม่มีความปลอดภัยที่จะรอดจากพ่อเลี้ยงได้
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้(22 พ.ค.61) ที่ สภ.มาบตาพุด ครอบครัวหัวร้อน ได้เดินทางเข้าพบตำรวจ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีกข้อหาร่วมกับญาติอีก 1 คน ทั้ง 3 คน ก็ยืนยันให้การปฏิเสธตามเดิมขอต่อสู้ในชั้นศาล
ร.ต.ท.นิธินันท์ ศรีรุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.มาบตาพุด ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่นและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งก็ให้การปฏิเสธ แต่เมื่อดูจากคลิป จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปต่อสู้ขัดขวางการจับกุมและร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ จึงได้แจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
