เมื่อวานนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้เข้าชี้แจงต่อรัฐสภายุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม กรณีที่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานหลายสิบล้านบัญชีถูกบริษัทเคมบริดจ์ อนาลิติก้า นำไปใช้หาผลประโยชน์ รวมถึงการปล่อยให้มีการใช้เฟซบุ๊กในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวอันเป็นเท็จ ซึ่งคำให้การของซักเคอร์เบิร์กก็แทบไม่ต่างจากท่าทีที่ผ่านๆมาของเขา นั่นคือ การกล่าวคำขอโทษ โดยซักเคอร์เบิร์ก ยังย้ำจุดยืนว่า ตัวเขาสนับสนุนให้มีการวางกฎระเบียบเพื่อกำกับดูแลสื่อสังคมออนไลน์ แต่ประเด็นสำคัญ คือ รายละเอียดของกฎระเบียบที่จะนำมาใช้
ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่า ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เฟซบุ๊กจะยื่นคัดค้านข้อกำหนดด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว ที่บังคับใช้กับทุกบริษัทที่ทำธุรกิจใน 28 ชาติของยุโรป ซึ่งผู้ที่ละเมิดกฎดังกล่าวมีโทษปรับสูงถึง 4% ของผลประกอบการประจำปี
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสมาชิกรัฐสภายุโรปหลายคนจะยังไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ เนื่องจากซักเคอร์เบิร์กเลี่ยงตอบคำถามในหลายประเด็น เช่น เฟซบุ๊กเป็นธุรกิจผูกขาดหรือไม่ หรือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้งาน WhatApp ซึ่งเป็นโปรแกรมแชทบนสมาร์ทโฟน ที่เฟซบุ๊กซื้อกิจการมาในปี 2014 รวมถึงประเด็นที่ว่า ผู้ที่ไม่ได้ใช้งานเฟซบุ๊กสมควรถูกเก็บข้อมูลด้วยหรือไม่ ไปฟังบรรยากาศบางส่วนในสภากันครับ
สำหรับรูปแบบการซักถามเมื่อวานนี้ แตกต่างเมื่อครั้งที่ซักเคอร์เบิร์กขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสของสหรัฐฯ โดยครั้งนี้สมาชิกสภาแต่ละคนจะมีเวลาคนละ 3 นาที ในการถามคำตอบ โดยซักเคอร์เบิร์กจะมีเวลาในการตอบคำถามทั้งหมดในช่วงท้าย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า นี่เป็นช่องโหว่ที่ช่วยให้ซักเคอร์เบิร์กสามารถเลือกตอบหรือไม่ตอบในบางประเด็นได้
ภาพ : Reuters
