จับสึกพระ 5 รูปสะเทือนวงการสงฆ์!“พระมหาไพรวัลย์”เชื่อจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พระมหาไพรวัลย์เผยกระแสว่าอดีตพระพุทธะอิสระ ไม่เปล่งวาจาลาสิกขานั้นก็ถือว่ายังสามารถอยู่ในสถานะความเป็นสมณเพศ เชื่อการกระทำของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการพระสงฆ์ ด้านนักวิชาการอิสระด้านพุทธศาสนา เชื่อเรื่องทุจริตเงินทอนวัดยังไม่จบแค่นี้ยังมีวัดอีกหลายที่ที่ทุจริต

เมื่อวันที่ (25 พ.ค. 61) พระมหาไพรวัลย์ วรวณุโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง กล่าวผ่านรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่กองปราบปรามนำกำลังบุกจับ อดีตพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม “อดีตพระพุทธะอิสระ” เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ภายในกุฏิวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ตามหมายจับกรรโชกทรัพย์ และหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งภายหลังศาลได้ยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว จึงต้องลาสิกขาและถูกคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ การที่ตำรวจได้นำกำลังไปบุกจับอดีตพระพุทธะอิสระนั้น เจ้าหน้าเองจะต้องประเมินสถานการณ์เอาไว้อยู่ก่อนแล้ว  เนื่องจากวัดอ้อน้อยของอดีตพระพุทธะอิสระได้มีคนคอยดูแลอยู่ตลอด ส่วนคดีที่อดีตพระพุทธะอิสระ ถูกกล่าวหาก็ถือว่าเป็นคดีที่ร้ายแรงอยู่พอสมควร หลังจากที่มีกระแสว่าอดีตพระพุทธะอิสระ ไม่เปล่งวาจาลาสิกขานั้นก็ถือว่ายังสามารถอยู่ในสถานะความเป็นสมณเพศได้ หากยังถือศีลปฎิบัติตนทางธรรม เช่น ขณะอยู่เรือนจำท่านยังไม่ชั้นข้าวเย็น และไม่กระทำการใดที่ผิดต่อหลักศาสนาก็ยังถือเป็นพระภิกษุสงฆ์

ส่วนกรณีพระ 5 รูป วัด ประกอบด้วย พระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ,พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ,พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ,พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ,พระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา   โดยส่วนตัวเชื่อว่ามูลความผิดจริงเพราะเจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบที่มาของเงินเส้นทางการเงินได้ แต่การที่จับพระสึกเลยนั้นค่อนข้างน่าเห็นใจเป็นอย่างมากเพราะพระบางรูปเป็นถือราชาคณะ การที่บังคับให้ลาสิกขาเหมือนกับเป็นการสำเร็จโทษให้ประหารชีวิตเพราะได้ตายจากความเป็นพระแล้ว

นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพุทธศาสนา  กล่าวว่า คดีเงินทอนวัดเป็นความจริงที่น่าเชื่อเพราะเงินถูกจ่ายไปให้กับคนที่กำลังถูกสอบสวนอยู่ช่วงปี 2556-2557 โดยพระส่วนใหญ่จะเคยชินว่าได้รับเงินบริจาคก็สามารถใช้เงินได้ตามอัทธยาศัยโดยปราศจากการตรวจสอบด้วยความเคยชิน  ประเด็นคือนี้ไม่ใช่เงินบริจาคอย่างที่เคยชินแต่นี้คือเงินหลวงเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชนแล้วเมื่อเวลาผ่านไปเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเงินถูกใช้ไปตามที่ประสงค์ไหม

กรณีของพระยันตระที่ไม่รอดจากคุกเป็นเพราะมีหลักฐานทางการเงินว่าโกงจริง ยิ่งสมัยนี้สามารถหาหลักฐานได้ง่ายกว่าสมัยก่อนการที่คนมีตำแหน่งไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ แต่ถ้าสามารถบืนยันความบริสุทธิ์ความไม่มีความผิด  แต่เรื่องนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่รัฐกำลังเชือดไก่ให้ลิงดูและส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้ยังมีลิงอีกเยอะจะได้เห็นว่างานนี้ในอนาคตพระจะต้องปฎิบัติตัวอย่างไร       

 

 

ชมคลิปเต็มได้ที่ >> “พระมหาไพรวัลย์” ยัน "คอมมานโด" บุกจับ “อดีตพระพุทธะอิสระ” คามุ้ง “ไม่รุนแรง” เพราะเป็นคดีอุจกรรจ์ – โทษหนัก                                              

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ