พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ว่าจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษจำนวน 3 รูปแบบ ดังนี้
1. ส่งเสริมพื้นที่ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจบีโอไอ ในลักษณะเป็นนิคมอุตสาหกรรม
2. ให้เอกชนมาเช่าพื้นที่เพื่อลงทุน
3. ส่งเสริมธุรกิจ SMEs ในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานระยะที่ 1 ภายในปีนี้ ซึ่งจะยังไม่มีการปรับปรุงอะไรไม่ว่าจะเป็นถนน เส้นทางสาธารณูปโภค และด่านศุลกากร ทั้งหมดอยู่ในแผนการดำเนินการระยะยาวอยู่แล้ว แต่จะเร่งรัดการให้ขับเคลื่อนการทำงานให้เร็วที่สุด
สำหรับกรณีแรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการจะเดินทางเข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดำเนินการจดทะเบียนแรงงานดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า - ออกประเทศแบบเช้าไปเย็นกลับ รวมไปถึงแรงงานตามฤดูกาลที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย
ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีวงเงิน 15,000 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารและทำหลักเกณฑ์ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 โดยภาครัฐจะเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ได้เริ่มต้นธุรกิจและพัฒนาให้เติบโตได้ตามวงจรอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเหลือด้านการตลาด จัดหาช่องทางการขาย ขยายตลาดใหม่สู่ AEC รวมถึงช่วยเหลือด้านการปฏิบัติผ่อนปรนปล่อยสินเชื่อให้กับ SMEs ที่อาจติดแบล็คลิสต์และเครดิตบูโร