เมื่อวันที่ (31 พ.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ซึ่งชำนาญการจับสัตว์เลื้อยคลาน เข้าตรวจสอบร้านค้าแห่งหนึ่งในซอยนพรัตน์ ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี หลังชาวบ้านขอความช่วยเหลือให้มาช่วยจับตัวมันที่วิ่งเข้ามาในร้านจนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาสั่งซื้อขนม
เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย พยายามนำบ่วงจับไปคล้องคอเพื่อจับมันแต่มันก็วิ่งหนีรอดไปได้หลายครั้ง กว่าจะตามไล่จับมันได้ก็ใช้เวลาอยู่นานเกือบชั่วโมง และต้องมีคนมาช่วยจึงไล่จับตัวมันมาได้ โดยมีชาวบ้านและเด็ก ๆ ออกมาติดตามการไล่จับตัวเหี้ยด้วยความสนใจและนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นจำนวนมาก เพราะที่จับได้ไม่ได้มีตัวนี้เพียงตัวเดียวแต่ยังมีตัวเหี้ยอีกตัวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าถูกจับมัดไว้อยู่ที่รถจักรยานยนต์ ส่วนตัวที่จับได้ล่าสุดตัวนี้นับเป็นตัวที่ 8 ของวัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2544 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน เคยมีการเสนอให้ถอดตัวเหี้ยออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ไม่ผ่านมติคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในเวทีเสวนาวิชาการทันสถานการณ์ “เหี้ย” ในประเทศไทย ที่จัดขึ้นโดยคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล มีการพูดเรื่องนี้กันอีกครั้งหลังพบสถานการณ์ตัวเหี้ยในประเทศไทยมีการขยายพันธ์อย่างรวดเร็วและไม่สามารถจับมาทำหมันเพื่อคุมกำเนิดได้ ทำให้ตัวเหี้ย ซึ่งเป็นสัตว์ผู้ล่าระดับบนของห่วงโซ่อาหารมีจำนวนมากขึ้น โดยมีข้อเสนอให้ถอดออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองและผลักดันให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ แต่ในมุมมองนักอนุรักษ์ เห็นว่า หากถอดตัวเหี้ยออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองก็จะเกิดการไล่ล่าเพื่อเอาหนังเพื่อไปทำกระเป๋าหรือรองเท้าซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแน่นอน แต่หากอนุญาตให้เพาะพันธุ์ในเชิงเศรษฐกิจก็ต้องกำหนดมาตรการควบคุมดูแลให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการนำตัวเหี้ยตามธรรมชาติมาสวมทะเบียนเพื่อส่งขาย