สุดยื้อ!! "วาฬนำร่อง" ตายแล้ว พบขยะพลาสติก 85 ชิ้นอุดตันกระเพาะอาหาร


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยชีวิตวาฬนำร่องที่ว่ายเข้ามาในคลองนาทับไม่สำเร็จ พบสาเหตุหลักมาจากขยะพลาสติก จากการชันสูตรพบขยะพลาสติก 8 กิโลกรัม

วันนี้ ( 2 มิ.ย.61) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) เปิดเผยว่า  กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมาชาวบ้านพบวาฬว่ายเข้ามาในคลองนาทับ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในวันเดียวกันนั้นตนได้สั่งการให้ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ของกรม ทช. ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ จากการสังเกตเบื้องต้นพบว่าวาฬมีลักษณะผอม การลอยตัวผิดปกติ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น พบก้อนเนื้อกระจายอยู่ทั่วลำตัว ไม่กินอาหาร มีอาการซึม เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บเลือด ลมหายใจและก้อนเนื้อบริเวณลำตัว พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด และติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจ และพบว่าสัตว์มีภาวะขาดน้ำ ทางสัตวแพทย์จึงมีการให้ยาปฎิชีวนะและสารน้ำทางหลอดเลือด และมีการป้อนน้ำเพื่อชดเชยการขาดน้ำ และมีการขนย้ายจากคลองนาทับมายังชายหาดบ้านปึก เนื่องจากน้ำในคลองขุ่นและเชี่ยว ไม่เหมาะต่อการปฐมพยาบาล

ขณะที่เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.61) ในช่วงบ่ายวาฬตัวดังกล่าวเกิดอาการดิ้นมาก และมีการสำรอกเอาพลาสติกออกมาจำนวน 1 ชิ้น รวมถึงมีการชักเกร็งและสำรอกเอาพลาสติกออกมาอีก 4 ชิ้น หลังจากนั้นทางสัตวแพทย์ได้ทำการกู้ชีพวาฬแต่ไม่สำเร็จ ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ทีมงานจึงทำการขนย้ายซากวาฬกลับมาชันสูตรยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา ผลการชันสูตรพบความผิดปกติในระบบต่างๆ เช่น ปอดอักเสบ หัวใจขาดเลือด พบพยาธิในปอด ท่อน้ำดีและลำไส้ และพบขยะจำพวกพลาสติกในส่วนต้นของกระเพาะอาหารจำนวน 8 กิโลกรัม นับได้จำนวน 85 ชิ้น ซึ่งขยะดังกล่าวอุดตันบริเวณกระเพาะส่วนต้น และพบพลาสติกบางส่วนที่ถูกย่อยในกระเพาะหลัก ซึ่งขยะดังกล่าวเป็นแผ่นพลาสติก ถุงพลาสติกและห่อขนม สาเหตุการตายนี้สาเหตุหลักจึงเกิดจากขยะพลาสติก ที่วาฬกินเข้าไป ทำให้เกิดการอุดตันโดยขยะดังกล่าวเป็นขยะที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เมื่อวาฬป่วยจึงไม่สามารถออกล่าอาหารได้เอง จึงกินพลาสติกเข้าไปเนื่องจากเข้าใจว่าเป็นอาหาร ซึ่งขยะเหล่านี้มีผลทำให้อาการของวาฬแย่ลงและตายในที่สุด


อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า มีสัตว์ทะเลจำนวนมากต้องตายลงเพราะปัญหาขยะทะเล โดยเฉพาะขยะพลาสติก จึงขอฝากไปยังกลุ่มผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค ช่วยกันลดปัญหาขยะทะเลในทุกๆมิติ การตายของวาฬในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ขยะทะเลได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายาก หากเรายังไม่ช่วยกันลดปริมาณขยะทะเล อนาคตจะไม่หลงเหลือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอยู่เลย รวมไปถึงสัตว์ทะเลหายากเหลานี้ อีกทั้งตัวเราทุกๆคนก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วยเช่นกัน

สำหรับวาฬนำร่องครีบสั้นเป็นวาฬที่อาศัยรวมกันเป็นฝูงใหญ่บริเวณทะเลเปิดในโซนเขตร้อน พบได้ตามไหล่ทวีปและร่องน้ำลึก ในประเทศไทยเคยมีการพบเจอวาฬนำร่องครีบสั้นที่บริเวณจังหวัดพังงา จำนวน 2 ครั้ง เมื่อปี 2552 และ 2553 ส่วนในฝั่งอ่าวไทยมีรายงานการเกยตื้นของวาฬชนิดนี้ทั้งหมด 3 ครั้ง คือเมื่อปี 2544 และ 2553 พบเกยตื้นที่จังหวันครศรีธรรมราช และเมื่อปี 2536 พบเกยตื้นที่จังหวัดนราธิวาส

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ