หลังวาฬนำร่องครีบสั้นตัวนี้ เกยตื้นบริเวณปากคลองนาทับ ติดกับทะเลอ่าวไทย ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา และแสดงอาการป่วยอย่างหนัก
กระทั่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยตอนล่างรายงานว่า วาฬตัวนี้ได้ตายลงแล้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งที่ทีมสัตว์แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง 5 วัน โดยผลัดเปลี่ยนกันลงไปดูแลในน้ำตลอด24ชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากวาฬนำร่องครีบสั้นตัวที่พบ แสดงอาการป่วยอย่างหนัก
สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ทุกคนสะเทือนใจอย่างมากกับการจากไปของวาฬตัวนี้ เกิดขึ้นหลังผ่าพิสูจน์ พบขยะพลาสติกอยู่ภายในกระเพาะของมันถึง 80 ชิ้น รวมน้ำหนัก 8 กิโลกรัม และก่อนตายมันได้สำรอกถุงพลาสติกออกมา 5 ชิ้น จึงเชื่อว่า เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มันป่วยหนักและตายในที่สุด
ล่าสุด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรณ์ ธำรงนาสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความเสียใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในลักษณะตัดพ้อว่า ในฐานะประธานคณะทำงานสัตว์ทะเลหายากและกรรมการปฏิรูปประเทศ ที่ผ่านมาพยายามเสนอและจัดทำแผนและงบประมาณ เพื่อยกระดับการช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ทะเล ในลักษณะสร้างเครือข่าย แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากขยะพลาสติกยังมีอยู่เต็มท้องทะเลไทย
