ความคืบหน้าการตรวจค้นบริษัทและโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ขยะพิษ ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ นั้น
พล.ต.อวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไม่พบคนไทยเป็นเจ้าของบริษัทถึง 100% โดยส่วนใหญ่ยอมรับว่าเป็นนอมินีให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน และไม่มีบริษัทใดทำบัญชีภาษีถูกต้อง โดยว่าจ้างบริษัทคนไทยทำบัญชีภาษีอันเป็นเท็จ และแจ้งเป็นบริษัทขาดทุนมาโดยตลอด บริษัทที่มีกำไรมากที่สุดคือ 90,000 บาทต่อปีเท่านั้น แต่จากการตรวจค้นพบหลักฐานการโอนเงินไปต่างประเทศ ซึ่งมีการโอนเงินไปแล้วกว่า 28 ล้านบาท ภายในช่วงระยะเวลา 20 วันที่ผ่านมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับคนไทยที่ทำบัญชีภาษีเท็จช่วยเหลือต่างชาติในการทุจริตฉ้อโกงภาษีจากขบวนการนำซากขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างชาติเข้ามาในไทย
โดยเบื้องต้นได้รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม รับทราบแล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้ขุดรากถอนโคนขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซาก และหากพบว่ามีข้าราชการหน่วยงานใดเกี่ยวข้องปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิด ก็จะต้อง ดำเนิคดีตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น