หลังการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จอง-อึน สิ้นสุดลง ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ออกมาแถลงผลการหารือ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ จะสนับสนุนหรือคัดค้าน โดนัลด์ ทรัมป์และคึม จอง-อึน แต่ที่สิ่งที่เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในวันนี้ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เรียบร้อยแล้ว
เป็นนาทีและชั่วโมงที่จะถูกจดจำไปอีกนานเมื่อ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์และคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เดินตรงเข้าหาและจับมือกัน หลังการจับมือ คิมจอง-อึน พูดกับทรัมป์ว่า ยินดีที่ได้เจอท่านประธานาธิบดี และแน่นอน สำหรับสื่อมวลชนที่นี่เป็นภาพที่ถูกคิดและจัดมาสำหรับทีวีและการประชาสัมพันธ์อย่างแท้จริง ทั้งสองคนนั่งลงให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ทรัมป์บอกว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร่วมในการประชุมสุดยอด ขณะที่คิม จอง-อึน พูดถึงความลำบากและอุปสรรคที่ต้องเจอก่อนที่จะมีช่วงเวลาแบบนี้
คิม จอง-อึน บอกว่า ไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจุดนี้ เพราะอดีตดึงรั้งเราไว้ การปฏิบัติเก่าๆ และอคติก็ปิดหูปิดตาเรา แต่เราก็ก้าวข้ามทุกอุปสรรคเพื่อมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ได้ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่โลกได้เห็นผู้นำเกาหลีเหนือพูดต่อหน้าผู้สื่อข่าว จากนั้น ผู้นำทั้งสองเจอกันแบบ one on one หรือตัวต่อตัวก่อนการ หารือเต็มคณะ ในห้องคิม ทรัมป์และล่าม คุยกันเป็นเวลา 45 นาที การพบกันแบบนี้เป็นการฉีกธรรมเนียมปฏิบัติ แต่สำหรับทรัมป์ ไม่มีใครแปลกใจที่เขาเลือกวิธีการนี้
มีข้อมูลออกมาบ้างสำหรับการพบกันแบบตัวต่อตัว นั่นคือ ไม่มีการคุยหรือตกลงอะไรกัน ผู้สื่อข่าวที่นี่บางคนบอกว่าเป็นแค่การโชว์มากกว่า แต่ถ้าฟังทีมงานของทรัมป์ นี่คือขั้นแรกของสร้างการรู้จักและความเชื่อมั่น ตลอดการพบปะหารือและในช่วงที่สื่อมวลชนได้รับอนุญาตให้ ถ่ายภาพ คิม จอง- อึน ดูพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและการที่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อพบกับผู้นำประเทศโลกเสรีที่ทรงอิทธิพลที่สุด สังเกตคิมมีรอยยิ้มกว้างอยู่หลายครั้ง
แน่นอนสำหรับคิม จอง-อึน นี่คือ ความปราถนาสูงสุด การยกระดับและบารมีให้เท่าเทียมกับสหรัฐฯ การพัฒนาศักยภาพอาวุธนิวเคลียร์ที่ผ่านมา นอกจากเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองแล้ว ยังคือการให้ตัวเองเข้ามาเป็นหนึ่งในดุลอำนาจของการเมืองระหว่างประเทศ และนี่คือสิ่งที่คิมทำได้แล้ว นั่งโต๊ะและอยู่ในระดับเดียวกับผู้นำสหรัฐฯ และธงของเกาหลีเหนือที่เคียงคู่กับธงสหรัฐทั่วเกาะสิงคโปร์ ส่วนทรัมป์เองก็เหมือนจะพอใจมากถึงแม้จะพยายามเก็บความรู้สึกไว้ช่วงแรกๆ แต่หลังการพบกัน ทรัมป์นั้นยิ้มแย้มแล้วก็พูดกับผู้สื่อข่าวหลายครั้งว่า เขากับคิมไปกันได้ดี การพูดคุยเป็นไปอย่างเยี่ยมยอดและประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากการหารือ ผู้นำทั้งสองออกมาเช็นข้อตกลงร่วมกันต่อหน้าสื่อมวลชน โดยทางสหรัฐฯออกมาให้ข้อมูลว่า เกาหลีเหนือตกลงในหลักการแล้วที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์
การปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯหมายถึง การต้องปลดทั้งหมดโดยเมื่อปลดแล้ว ต้องสามารถพิสูจน์ได้ นั่นคือต้องยอมให้ องค์กรนานาชาติสามารถเข้าไปตรวจสอบและยืนยันว่ามีการ ปลดอาวุธนิวเคลียร์จริงเพื่อให้มั่นใจว่าอาวุธนิวเคลียร์จะไม่สามารถถูกนำกลับมาใช้ได้อีก ส่วนเกาหลีเหนือจะได้อะไรเป็นการตอบแทนจากการปลดอาวุธ นิวเคลียร์ เมื่อวานนี้รัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ บอกว่า สิ่งที่จะให้คิม จอง-อึน คือ หลักประกันความมั่นคงและปลอดภัยที่หาที่ไหนไม่ได้
แน่นอนการพบกันครั้งนี้เป็นการพบกันหรือการประชุมที่ฉีกกฎเกณฑ์ของการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สหรัฐฯมีต่อเกาหลีเหนือมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ หลายคนก่อนหน้านี้พยายามทำไม่ว่าจะเป็นบิล คลินตัน จอร์จ ดับเบิลยู บุช หรือโอบามา คือการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ พอทรัมป์มา ทุกอย่างที่ดู เหมือนซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้หลายคนอาจจะบอกว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในวันนี้เป็นแค่โชว์ดีๆโชว์หนึ่ง การจะทำให้ได้จริงหรืองานที่ต้องทำต่อจากนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ง่าย การปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่จะนำสันติภาพมาสู่คาบสมุทรเกาหลีจะเป็นไปได้หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ยังไม่พอที่จะไปถึงข้อสรุปตรงนั้น
กรุณา บัวคำศรี
รายงานจากประเทศสิงคโปร์
ภาพ : AFP