ผู้การฯกองปราบ เตรียมเค้นจนท.ดีเอสไอ กรณีโพสต์ข้อมูลสืบสวนเงินทอนวัดในเฟซบุ๊ก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเปิดเผยข้อมูลการสืบสวน สอบสวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดล็อต 4 ของนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ  ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายพิสิฐชัยถูกนำตัวไปที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำก่อนถูกแจ้งข้อหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

วันนี้ (12 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พาตัว นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร อดีตพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีภาษีอากร ดีเอสไอ ที่เพิ่งถูกคำสั่งจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  ให้พ้นจากตำแหน่งเดิมไปเมื่อวานนี้  เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อสอบปากคำถึงสาเหตุที่โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่าตำรวจออกหมายจับพระชั้นผู้ใหญ่และเตรียมค้นวัดดังในกรุงเทพมหานคร 4 แห่ง ข้อหาทุจริตเงินทอนวัด หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามฐานเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

 

จากการเปิดเผยของพล.ต.ต.ไมตรี ระบุว่า สนิทกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป แต่เลี่ยงตอบว่าสนิทกับพระชั้นผู้ใหญ่ในวัดที่ถูกดำเนินคดีหรือไม่ และเคยบวชเรียนมาก่อน โดยปี 2531-2537 จำวัตรอยู่ในจังหวัดราชบุรี ก่อนย้ายไปจำวัตรอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ปี 2533

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่ากรณีนี้เป็นเรื่องระหว่างองค์กร ซึ่งดีเอสไอไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดตั้งแต่แรก การที่นายพิสิฐชัย โพสต์ข้อความนี้ได้ชี้แจงเบื้องต้นกับผู้บังคับบัญชาในกรม และพนักงานสอบสวนกองปราบแล้วว่ามีที่มาจากไหน โดยขอยังไม่บอก ซึ่งพล.ต.ต.ไมตรี เปิดโอกาสให้นายพิสิฐชัยเอาหลักฐานมายืนยันว่า ได้ข้อมูลการสอบสวนมาจากไหน

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนายพิสิฐชัย กับวัดพระธรรมกาย ที่ทำให้นายพิสิฐชัยรับหน้าที่เป็นหนึ่งในชุดเจรจาของดีเอสไอ ตอนตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พ.ต.ท.กรวัชร์ เปิดเผยว่า เพราะนายพิสิฐชัยเคยบวช น่าจะมีการเจรจาที่ดี

การแจ้งข้อหาตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แม้นายพิสิฐชัย อ้างในการสอบปากคำว่าเป็นข้อมูลที่ได้มา แต่การสอบสวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดล็อตที่ 4 ยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ จากผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่ามีพระสงฆ์ของวัดไหนกระทำผิดบ้าง จึงถือว่า นายพิสิฐชัย เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จอยู่

ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.ยุติธรรม บอกว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งให้พ้นจากหน้าที่แล้ว และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมระวังการโพสต์ข้อความต่างๆเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องดับคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด ส่วนการโพสต์ของนายพิสิฐชัย มีเบื้องหลังหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ และไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับรูปคดีได้ และวันนี้จะกลับไปหารือต่อที่กระทรวงยุติธรรม

ส่วนการที่ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย ออกมาอ้างว่า พบความเคลื่อนไหวพระธัมมชโย ในวัดพระธรรมกาย รมว.ยุติธรรม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ยังติดตามความเคลื่อนไหว และรายงานความคืบหน้ามาทุกเดือน ซึ่งรายงานล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของพระธัมมชโย แต่จะกลับไปสอบถามกับทีมในพื้นที่อีกครั้ง

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ