ควันสีขาวที่ลอยขึ้นจากที่ดินบริเวณนี้ คือ สัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า ใต้ดินมีวัตถุแปลกปลอมบางประการซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตบางขุนเทียน ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่อยู่ใต้ดิน คือ ตะกรันอลูมิเนียม
เมื่อฝนตกลงมา ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า วัตถุใต้ดิน ทำปฏิกิริยาบางอย่างกับน้ำฝน จนเกิดกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า กลิ่นที่เกิดจากปฏิกิริยาที่ว่านี้ คือ กลิ่นของก๊าซไข่เน่า และแอมโมเนีย หากเป็นเช่นนี้จริง สมมติฐานที่ว่าวัตถุใต้ดินคือ ตะกรันอลูมิเนียม ก็จะมีน้ำหนักขึ้น เพราะยังไม่เคยมีสารเคมีตัวใดทำปฏิกิริยากับน้ำ แล้วกลายเป็นก๊าซไข่เน่า และแอมโมเนีย ยกเว้นตะกรันอลูมิเนียม
เจ้าของที่ดิน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เขาว่าจ้างผู้รับเหมาให้ถมที่ดิน แต่ยังไม่ได้ตกลงราคา เพราะ ผู้รับเหมารายนี้เป็นผู้รับเหมาที่เคยว่าจ้างมาแล้วหลายครั้ง และไม่เคยมีปัญหามาก่อน จึงทำสัญญาใจให้เข้าดำเนินการ
ส่วนข้อมูลของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ระบุว่า มีรถบรรทุกมากกว่า 5 คัน ขับเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นเริ่มได้กลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่ว และชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาการแสบจมูก แสบตา เวียนศีรษะ และน้ำตาไหล เมื่อสูดดมเป็นเวลานาน ก่อนจะขอให้ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกับเจ้าของที่ดินให้เข้าปรับสภาพพื้นที่
13 มิถุนายน ผู้รับเหมาก่อสร้างนำรถบรรทุกเข้าพื้นที่ พร้อมขนดินจำนวนหนึ่งออกจากพื้นที่ ชาวบ้านรายหนึ่งอ้างว่า เมื่อผู้รับเหมาขุดดินขึ้นมา พบมีตะกอนบางอย่างถูกฝังในหลุมดิน
แม้ผู้รับเหมาก่อสร้างจะพยายามแก้ไข แต่ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จนต้องแจ้งให้สำนักงานเขตบางขุนเทียนเข้าตรวจสอบ พร้อมนำปูนขาวกลบหน้าดิน เพื่อปรับสภาพดิน ก่อนจะออกคำสั่งให้วัตถุที่อยู่ใต้ดิน ส่งไปกำจัดในโรงงานที่มีศักยภาพในการกำจัดตระกันอลูมิเนียม
ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดขยะอันตราย ระบุว่า ตามปกติค่ากำจัดตะกรันอลูมิเนียม อยู่ที่ 4,500-6,000บาท ต่อตัน หากมีรถบรรทุกมากกว่า5เที่ยวขับเข้ามาในพื้นที่ ตีความได้ว่า อาจมีตะกรันอลูมิเนียมมากกว่า 50 ตัน ถูกลักลอบทิ้งบริเวณนี้ แต่ขั้นตอนการกำจัดหลังจากนี้ อาจต้องเสียค่ากำจัดมากกว่าเดิม เพราะตะกรันอลูมิเนียมปนเปื้อนลงในดินแล้ว หมายความว่าดินทั้งหมดต้องถูกส่งไปกำจัดที่โรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม ประเภท 101
ณัฐพล ศิลาคำ ถ่ายภาพ
บุศรินทร์ วรสมิทธิ์ รายงาน
