“เมลาเนีย ทรัมป์” เรียกร้องยกเลิกนโยบายพรากผู้อพยพเด็กจากครอบครัว

“เมลาเนีย ทรัมป์” สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐฯ กล่าวไม่เห็นด้วยกับนโยบายของสามีเธอ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”  ที่มีการพรากผู้อพยพเด็กจากครอบครัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นี่อาจนับเป็นครั้งแรกที่ “นางเมลาเนีย ทรัมป์” ออกมาแสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยกับ สามีของเธอ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ” ด้าน โฆษกของเธอกล่าวว่า "นางทรัมป์ เชื่อว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมด แต่ยังอย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาก็ต้องเป็นประเทศ ที่ปกครองประชาชนด้วยหัวใจ เช่นกัน”

โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงาน ที่ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา (รวมเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์) มีผู้อพยพวัยเด็กจำนวน 1,959 คน ถูกพรากจากพ่อ-แม่ผู้อพยพ ที่ต้องคดีทางอาญา จากการหลบหนีเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย บริเวณชายแดนเม็กซิโก หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้นโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” (zero tolerance) ต่อผู้อพยพที่พยายามจะหลบหนีเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ที่เข้มงวดมากขึ้น

ะด้วยมาตรการนี้ จึงทำให้ขณะนี้ มีเด็กๆ ผู้อพยพ ต้องถูกคุมขังอยู่ในศูนย์กักกัน อยู่หลายร้อยคน ขณะเดียวกันทางรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐเท็กซัส ได้ประกาศแผนที่จะสร้างเต๊น เพื่อรองรับเยาวชนอีกจำนวนมาก แต่จุดที่จะสร้างนั้น อยู่กลางทะเลทรายที่อูณหภูมิปกติจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งก็ถูกนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

ส่วนเมื่อวานนี้ ที่ชายแดนเมืองตอนิลโญ (Tornillo) รัฐเท็กซัส ก็มีผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคน ออกมาร่วมกันชุมนุม เนื่องในวันพ่อแห่งชาติของสหรัฐฯ เพื่อแสดงความไม่พอใจนโยบายดังกล่าวเช่นกัน