ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติและครอบครัวนำศพ ด.ญ.ประวินทรา เค้พวง หรือ น้องแยม อายุ 5 ขวบไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน ต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ท่ามกลางความเศร้าโศก
โดยเฉพาะ นางเพชร น้อยแก้ว ยายของน้องแยม ที่ยังตกใจและสงสารหลาน ที่ต้องเสียชีวิตอย่างทรมาน
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ครูพี่เลี้ยงนำรถกระบะส่วนตัว ไปรับน้องแยมและเด็กนักเรียนคนอื่นรวม 6 คน เพราะรถยนต์ที่ใช้รับส่งนักเรียนเสียมา 2 - 3 วันแล้ว แต่ครูพี่เลี้ยงไม่รู้เส้นทางเข้าออกภายในหมู่บ้าน จึงให้น้องแยมมานั่งด้านหน้ารถด้วย เพื่อช่วยบอกเส้นทาง
กระทั่งมาถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูพี่เลี้ยงจอดรถบริเวณถนนหน้าทางเข้าศูนย์ ก่อนลงไปนำนักเรียนอีก 5 คน ลงจากกระบะท้ายรถ โดยคิดว่าน้องแยมเปิดประตูรถลงไปแล้ว จากนั้นจึงล็อคประตูรถโดยไม่ทันตรวจดูว่า น้องแยมลงจากรถแล้วหรือไม่ และตลอดทั้งวันก็ไม่ได้ออกมาดูรถยนต์ที่จอดอยู่ กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน จึงพบว่าน้องแยมนอนแน่นิ่ง รีบแจ้งตำรวจและแพทย์มาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทัน
ส่วนด้านคดี ตำรวจได้แจ้งข้อหากระทำ โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และให้ประกันตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ ล่าสุด ครูพี่เลี้ยงอยู่ในอาการช็อค ตกใจ เสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวครูพี่เลี้ยงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น เพื่อให้คลายความเครียดลง
ขณะที่ นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ระบุว่า ระยะ 5-6 ปีที่ผ่านมา มีเด็กเล็กถูกลืมในรถและเสียชีวิตแล้ว 6 คน ซึ่งน้องแยมเป็นรายที่ 7 วิเคราะห์ได้ว่าการใช้รถส่วนบุคคลมาวิ่งแทนรถนักเรียนนั้น รถส่วนบุคคลมักติดฟิลม์ทึบ ทำให้มองไม่เห็นว่ามีเด็กอยู่ในรถ
ขณะที่ครูที่ขับไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง ทำให้ไม่คุ้นเคยกับการทำหน้าที่นี้ วิธีการที่ดีสุดสำหรับผู้ปกครองคือ ต้องโทรศัพท์สอบถามครูทุกครั้งว่า ลูกถึงโรงเรียนหรือยัง นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลและท้องถิ่นที่ดูแลศูนย์เด็กเล็ก ให้จัดสรรงบประมาณมาจัดการรถรับส่งนักเรียนที่มีมาตรฐาน