ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้ออกมาประกาศตามหา เจ้าของพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ ที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตรวจยึดได้เป็นของกลาง เมื่อ 39 ปีก่อน พล.ต.ต.สมพงษ์ ระบุว่า เมื่อ 39 ปีก่อน ได้มีคนร้ายนำพระพุทธรูปใส่กระสอบข้าวสาร ลงเรือมาขึ้นที่ท่าพระจันทร์ เพื่อนำพระพุทธรูปมาขาย แต่คนร้ายเห็นตำรวจก่อน จึงทิ้งกระสอบพระพุทธรูป และกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาหลบหนีไปได้ ต่อมาตำรวจจึงได้นำพระพุทธรูปมาเก็บไว้ที่ สน.ชนะสงคราม แต่ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 40 ปี ก็ยังไม่มีผู้มาแสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ ตำรวจก็คาดว่าคนร้ายน่าจะแอบขโมยพระพุทธรูปมาจากวัดในต่างจังหวัด อย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะล่องเรือมาขายที่กรุงเทพมหานคร
ขณะที่ น.ส.พัชรินทร์ สุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า พระพุทธรูป 3 องค์นั้น ประกอบด้วย องค์แรกเป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย มีจีวรลายดอกพิกุล หน้าตัก 41 เซนติเมตร ความสูง 76.5 เซนติเมตร คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5
ส่วนองค์ที่ 2 และ 3 เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้ามสมุทร จีวรลายดอกพิกุล ส่วนอีกองค์เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 ซึ่งลักษณะส่วนใหญ่จะพบเป็นพระประจำวัด ไม่ใช่พระบูชาประจำบ้าน และเป็นของแท้ดั้งเดิม ไม่ใช่พระพุทธรูปทำใหม่
อย่างไรก็ตาม ประชาชนคนใด หรือวัดใด ที่มีหลักฐานว่าเป็นเจ้าของพระพุทธรูปเหล่านี้ สามารถนำหลักฐานมาแสดงขอรับพระพุทธรูปคืนได้ที่ สน.ชนะสงคราม แต่หากไม่มีผู้มาแสดงความเป็นเจ้าของภายใน 30 วัน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมอบให้กรมศิลปากรนำไปขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติต่อไป