กรณีทีมฟุตบอลเด็กพร้อมโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย จนเจ้าหน้าที่ตร่างระดมกำลังช่วยเหลือ ทั้งดำน้ำค้นหา และสำรวจโพรงเพื่อจะลงไปด้านลางของถ้ำ วันนี้ “เป็นเรื่องเป็นข่าว” ได้เชิญผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องถ้ำ และเคยไปสำรวจถ้ำหลวงมาพูดคุยในรายการ
โดยนายชัยพร ศิริพรไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการประสานงานระหว่างประเทศ กรมทรัพยากรธรณี ให้ข้อมูลว่า ถ้ำหลวงจะต่างจากถ้ำทั่วไปเพราะมีรอยแตกที่ยาวมาก และรอยแตกเป็นแนวขวางของโถงถ้ำหลักหลายแห่ง จึงทำให้เกิดบางโถงสูงใหญ่ที่เกิดจากหินถล่มลงมา บางโถงพื้นไม่ราบเรียบ บางจุดเหมือนข้องอทำให้เป็นจุดต่ำ เวลาน้ำมาจะทำให้เกิดน้ำขังและบล็อคโถงต่างๆที่เชื่อมติดต่อกัน ซึ่งโถงลักษณะนี้มีเพดานต่ำมาก แม้กระทั่งเข้าไปในช่วงหน้าแล้งยังต้องเดินก้มหัว ถ้ามีฝนตกลงมาจุดนี้ก็จะถูกปิดกั้นไปเลย ซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญ
โดยธรรมชาติแล้วถ้ำหินปูน อย่างถ้ำหลวงด้านทิศตะวันตกกับด้านทิศเหนือเป็นภูเขาสูงซึ่งเป็นหินปูน ถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าแล้งก็จะมีน้ำตลอดเวลา เพราะมีตาน้ำอยู่ด้านล่าง หรือ เรียกว่า น้ำผุด จึงส่งผลให้การสูบน้ำแล้วระดับน้ำไม่ลดลง ดังนั้นการสูบน้ำจะต้องสูบให้ได้มากกว่าน้ำที่ผุดขึ้น และ น้ำที่ไหลลงมาขึ้นมาจากเขา
ส่วนโพรงที่พบในครั้งแรกที่อยู่ทางทิศใต้นั้น จะอยู่ตามหน้าผา แต่ปรากฎว่าทั้ง 2โพรงไม่ทะลุถึงข้างในถ้ำ ส่วนโพรงที่ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำรวจพบเป็นโพรงในแนวดิ่งต้องรอลุ้นว่าจะทะลุลงไปข้างในถ้ำได้หรือไม่ และถ้าลงไปแล้วเจอน้ำถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะมาสามารถเข้าถึงในถ้ำได้
นอกจากนี้ นายชัยพร ยังแนะนำว่า ถ้าเป็นโพรงแนวดิ่งขอให้ใช้อุปกรณ์ที่ชื่อว่า ทีวีบอลโฮ ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิด ที่ใช้ส่องลงไปในบ่อบาดาล เพื่อส่องดูด้านล่างว่ามีอะไรบ้าง โดยไม่ต้องใช้คนลงไป ถ้ามีสิ่งน่าสนใจค่อยส่งคนลงไปสำรวจ
ในขณะที่นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีมกรุ๊ป กล่าวถึงปริมาณฝนที่ตกลงมาในชณะนี้ว่า เมื่อ24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกลงมาประมาณ 70 มิลลิเมตร หลังจากนี้ไปจะมีฝนตกหนัก ไปจนถึงกลางดึกของวันที่ 28 มิ.ย.จากนั้นฝนก็จะมีปริมาณน้อยลง
ชมคลิปได้ที่นี่>>>“นักธรณีวิทยา” เปิดโมเดล “ถ้ำหลวง” ชี้มีจุดพักเยอะ ลุ้นเจอ “โพรงเชื่อม” ช่วย 13 ชีวิต