ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือในวันที่สองว่า การหารือมีความคืบหน้ามาก โดยผู้นำชาติสมาชิกนาโต้ ได้ตกลงที่จะเพิ่มการจัดสรรงบด้านกลาโหมสู่ระดับที่คิดไม่ถึงมาก่อน
ที่ผ่านมา ชาติสมาชิกนาโต้ได้ตกลงที่จะจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหม คิดเป็นสัดส่วน 2 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ภายในปี 2024 แต่มีเพียงไม่กี่ประเทศที่จัดสรรงบตามเป้าดังกล่าว โดยสหรัฐอเมริกา เป็นชาติสมาชิกที่จัดสรรงบด้านกลาโหมมากที่สุดคือ 3.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในกลุ่มนาโต จ่ายเงินสมทบในสัดส่วน 1.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การประกาศของทรัมป์ดูจะสวนทางกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่บอกว่า ชาติสมาชิกนาโต้ไม่ได้ตกลงที่จะจัดสรรงบประมาณกลาโหมไปมากกว่าเป้าหมายที่มีอยู่ขณะนี้ ซึ่งก็คือ 2 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2024 เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ได้พูดถึงการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในสัปดาห์หน้า ที่ประเทศฟินแลนด์ด้วย โดยบอกว่า อาจเป็นการหารือที่ง่ายที่สุดในการเยือนยุโรปของเขา
เมื่อถูกถามว่าปูตินเป็นภัยคุกคามหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่าผู้นำรัสเซียเป็น “คู่แข่ง” ไม่ใช่ “ศัตรู” และหวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกันสักวันหนึ่ง
ทั้งนี้ ทรัมป์บอกด้วยว่า ตนจะหารือกับผู้นำรัสเซีย ในประเด็นควบคุมอาวุธ คาบสมุทรไครเมีย รวมถึงการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ