วันนี้ (13 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระเมศร์ วงศ์ทองเกื้อ ผู้ต้องหาในคดีสวมรอยบัตรประชาชนของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกนำตัวไปทำการฝากขังต่อศาลอาญา ผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน หลังถูกจับกุมตัวในคดี ลงทะเบียนเปิดซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวน 55 ซิมการ์ด ในข้อหาฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ และความผิดทางอาญา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อหาใช้เอกสารปลอม แต่ปฏิเสธข้อหาปลอมเอกสาร ล่าสุด นายพีระเมศร์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอประกันตัวสู้คดี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 100,000 บาท
พลตำรวจตรี วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบก.ปอท. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่ากระทำเพียงคนเดียว ซึ่งจากพฤติกรรมของคนร้ายจะหารูปนายกฯจากอินเตอร์เน็ต จากนั้นนำรูปและบัตรที่หาได้ไปลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่นของ กสทช. โดยสุ่มกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ส่วนสาเหตุที่ใช้รูปพลเอกประยุทธ์ เพราะว่าอยากทดลองใช้รูปบุคคลที่มีชื่อเสียงในการลงทะเบียนซิมแทนการใช้รูปลูกค้า เมื่อลงทะเบียนได้แล้วจะนำซิมไปจำหน่ายให้กับชาวต่างชาติราคาซิมละ 250 บาท และทำไปเพราะหวังผลกำไรเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ต้องหามีการนำซิมการ์ดดังกล่าวไปใช้ก่อการร้ายหรือหวังผลทางการเมือง ซึ่งผู้ต้องหารายนี้อาจจะต้องได้รับโทษต่างกรรมต่างวาระกระทงละ 5 ปี จากการเปิดซิมการ์ดจำนวน 55 ซิม ซึ่งอาจโดนโทษจำคุกสูงสุดถึง 275 ปี