พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินคดีเหตุเรือโดยสารนักท่องเที่ยวล่มที่บริเวณเกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากการติดตามตรวจสอบได้ข้อสรุปว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 47 คน และผู้บาดเจ็บ 48 คนซึ่งล่าสุดได้ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตครบถ้วน และมีญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปจัดการตามประเพณีแล้วบางส่วน
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทางพนักงานสอบสวน สภ.ฉลองได้รับคำร้องทุกข์ไว้จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย คดีแรก ดำเนินคดีกับ นายเมธา หลิมสกุล ซึ่งเป็นนายเรือ(กัปตัน) เรือเซเรนาต้า และนายเผิง ต้าชิง สัญชาติจีน ทำหน้าที่ปล่อยเรือ ในความผิดฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส"
คดีที่ 2. ดำเนินคดีกับนายสมจริง บุญธรรม ซึ่งเป็นนายเรือ (กัปตัน) เรือฟินิกซ์ ในความผิดฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ"
ส่วนคดีที่ 3.ดำเนินคดีกับ ชาวต่างชาติ สัญชาติรัสเซีย ในความผิดฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ" โดยพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 1,000 บาทแล้ว คดีจึงเป็นอันยุติ
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และศาลได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ซึ่งเป็นเจ้าของเรือฟินิกซ์ และนายอ่อนจันทร์ กัณหาโยธี ต้นกลเรือทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเครื่องยนต์ ในความผิดฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ"
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมด้วยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เข้าตรวจสอบ หจก.ธนวัฒน์ เอ็นจิเนียริ่ง ภูเก็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างต่อเรือฟินิกซ์ จากการตรวจสอบพบว่าประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ อีกด้วย
ส่วนมาตรการที่รัฐจะเดินหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา จะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างโมเดลระยะสั้นร่วมกับกรมเจ้าท่า ในการควบคุมการออกเรือของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกลำ เพราะที่ผ่านมาหากกรมเจ้าท่าตรวจสอบเอกสารเรือครบถ้วนก็สามารถออกเรือโดยสารได้ แต่โมเดลนี้จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมพิจารณาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติภัยซ้ำอีกโดยจะใช้มาตรการนี้เริ่มต้นในจังหวัดภูเก็ตก่อน และหากมีประสิทธิภาพก็จะนำไปใช้ในจังหวัดอื่นๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำต่อไป
