ผู้นำทั่วโลกร่วมไว้อาลัยการอสัญกรรมของบิดาแห่งสิงคโปร์ 'ลี กวน ยู'


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้นำระดับโลกทั้งสหรัฐฯ จีน และมาเลเซีย ต่างแถลงยกย่องและโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการจากไปของอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ นายลี กวน ยู ยการถึงแก่อสัญกรรมของนาย ลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศไว้อาลัยเป็นเวลา 7 วัน จัดพิธีฌาปนกิจในวันที่ 29 มี.ค.นี้


จากกรณี นายลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ เข้ารับการรักษาอาการปอดอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด ใน รพ.สิงคโปร์เจเนอรัล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อ 03.18 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 02.18 น. นั้น


วันที่ 23 มี.ค. 58 สำนักนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้ประกาศให้วันที่ 23-29 มี.ค. เป็นสัปดาห์แห่งการไว้อาลัยอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ โดยให้สถานที่ราชการทุกแห่งลดธงชาติลงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัยและเป็นเกียรติแก่รัฐบุรุษของประเทศ ส่วนพิธีฌาปนกิจจะจัดขึ้นในวันที่ 29 มี.ค. ในระหว่างนี้ทางการสิงคโปร์จะนำศพของ นายลี กวน ยู ไปตั้งไว้ภายในรัฐสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมแสดงความไว้อาลัย ซึ่งประชาชนจำนวนมากได้ทยอยนำดอกไม้ ไปวางที่ด้านนอกโรงพยาบาลเพื่อแสดงความเคารพแล้ว


ขณะที่ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบัน แจ้งข่าวการเสียชีวิตของบิดาผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ซึ่งประชาชนจำนวนมากเข้าไปโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจ ก่อนจะแถลงสดกล่าวยกยกบิดาว่า จะหาบุคคลใดเสมอเหมือน นายลี กวน ยู รัฐบุรุษผู้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ และทำให้เราทุกคนภูมิใจในความเป็นชาติจนถึงทุกวันนี้ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเป็นภาษามาเลย์และภาษาจีนกลาง เพื่อแจ้งให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดบรรดาผู้นำโลกทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างออกมายกย่อง นายลี กวน ยู โดยนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐ กล่าวยกย่องนายลีว่า เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ สามารถนำพาประเทศเป็นเอกราชในปี 2508 และพัฒนาจนเป็นประเทศที่รุ่งเรืองที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ด้าน นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิปดีสหรัฐฯ แถลงยกย่องนายลีว่า เป็นบิดาแห่งสิงคโปร์ผู้เปลี่ยนโฉมประเทศและนำพาอาเซียนเข้าสู่ยุคแห่งความทันสมัย ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ระบุว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนายลี


ฝ่ายรัฐบาลจีนแถลงยกย่องนายลี กวน ยู ว่าเป็นรัฐบุรุษผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย และยังเป็นนักกลยุทธ์ที่ผสมผสานค่านิยมตะวันออกและแนวคิดตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งรัฐบาลจีนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ไปยังรัฐบาลและประชาชนชาวสิงคโปร์ต่อการสูญเสียในครั้งนี้

ขณะที่ สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรี ที่ขอสดุดีความมุ่งมั่นของนายลี กับการพัฒนาสิงคโปร์จากประเทศเกิดใหม่จนเป็นประเทศทันสมัย และเป็นตัวแทนชาวมาเลเซียโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อชาวสิงคโปร์บนเฟซบุ๊คด้วย


อย่างไรก็ดี ข่าวร้ายนี้อาจทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ที่สิงคโปร์ได้รับเอกราช โดยจะมีขึ้นในวันที่ 9 ส.ค. นี้ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากนายลี กวน ยู เป็นรัฐบุรุษคนสำคัญที่ชาวสิงคโปร์ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก


ประวัติของ นายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์

นายลี กวน ยู รัฐบุรุษคนสำคัญของสิงคโปร์ และเป็นหนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์


เนื่องจากเป็นผู้นำพาประเทศออกจากเงาของมาเลเซีย และทำการเปิดประเทศพร้อมกับปฏิรูปเศรษฐกิจสิงคโปร์ให้พัฒนาแบบก้าวกระโดด ทำให้ประเทศที่เป็นเพียงเกาะขนาดเล็ก ไม่มีทรัพยากร และยังเคยเป็นอาณานิคมของชาติยุโรป ปฏิวัติตัวเองสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจ กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของโลก


บทบาททางการเมืองของนายลี เริ่มต้นขึ้นในปี 2502 ที่หาเสียงชนะการเลือกตั้งจนได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ขณะมีอายุเพียง 35 ปี และดำรงตำแหน่งติดต่อกันนานถึง 31 ปี ก่อนจะตัดสินใจวางมือให้ผู้นำรุ่นสองอย่าง โก๊ะ จ๊กตง ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศในปี 2533 ซึ่งต่อมานายโก๊ะได้ส่งมอบอำนาจต่อให้ ลี เซียน ลุง บุตรชายผู้สืบทอดเจตนารมย์ของบิดา ลี กวน ยู ในเดือน ส.ค. 2547


แม้นายลีจะเป็นผู้นำที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเผด็จการในคราบระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากมีนโยบายการปกครองแบบกดขี่ และถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อขจัดฝ่ายตรงข้าม รวมถึงนโยบายการควบคุมสื่อ การจำกัดเสรีภาพในการพูดและการชุมนุมในที่สาธารณะ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มรดกที่บิดาแห่งสิงคโปร์ได้ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง คือ รูปแบบ


ค่านิยมและความคิดความเชื่อ ที่ทำให้การบริหารจัดการของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การเมืองของประเทศมีระดับการทุจริตที่ต่ำ ประชาชนไม่ต้องจ่ายภาษีแพง และยังเป็นประเทศที่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน นอกจากนี้ยังเลื่องชื่อในด้านการศึกษาที่มีมาตรฐาน ความสะอาดของบ้านเมือง รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ