ตำรวจมาเลเซียแถลงผลภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายครั้งล่าสุด ระหว่างวันที่ 12-17 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ได้กลุ่มหนึ่ง เชื่อว่ากำลังวางแผนจะก่อเหตุโจมตีทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ ประกอบด้วยชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียรวม 7 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้ คือ นายโมฮัมหมัด จาซี ชาวมาเลเซีย วัย 34 ปี ที่วางแผนจะก่อเหตุลอบสังหารสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัดที่ 5 ซึ่งเป็นกษัตริย์หรืออากงพระองค์ปัจจุบัน รวมถึง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้โพสต์เฟซบุ๊ก ขู่จะกำจัดคนทั้งสอง โดยอ้างว่า ไม่ได้ปกครองมาเลเซียตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม
อังกฤษสกัดแผนลอบสังหารนายกฯ “เทเรซา เมย์”
ส่วนที่อังกฤษ ก็มีความคืบหน้าจากปฏิบัติการสกัดแผนลอบสังหารนายกฯเทเรซา เมย์ ซึ่งอาศัยความร่วมมือกันของสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน หน่วยความมั่นคงแห่งชาติของอังกฤษ หรือ MI5 และสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ที่ช่วยกันซ้อนแผนตลบหลังคนร้าย โดยแสร้งทำตัวเป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ในโลกออนไลน์ คนร้ายหลงกล คิดว่าเป็นพวกเดียวกัน จึงติดต่อนัดพบเพื่อขอความช่วยเหลือและขอให้ช่วยจัดหาวัตถุระเบิดในการก่อเหตุให้
จากการสอบสวน คนร้ายเป็นชายวัย 20 ปี ชื่อ เนมูร์ ราห์มัน จากตอนเหนือของกรุงลอนดอน ปัจจุบัน ขอลาพักการเรียนไว้ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่า ตั้งใจจะใช้ระเบิดแสวงเครื่องก่อเหตุโจมตีบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ซึ่งเป็นที่พักของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ก่อนจะบุกเข้าไปใช้มีดหรือปืนสังหารเธอ เพื่อแก้แค้นให้กับลุง ที่เสียชีวิตจากการไปร่วมรบกับกลุ่มไอเอสในเมืองรักกา ของซีเรีย
โดยเมื่อ 3 ปีก่อน ตัวเขาเคยถูกจับเข้าโครงการลดแนวคิดหัวรุนแรง ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาล แต่ปรากฎว่า เขายังคงติดต่อกับลุงอยู่ นอกจากนี้ เขายังรับสารภาพว่า ได้พยายามช่วยเพื่อนให้เดินทางออกจากอังกฤษ เพื่อไปเข้าร่วมรบกับกลุ่มไอเอสด้วย
ขณะที่นายกฯเมย์เอง ตอนนี้ก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันและความแตกแยกภายในพรรค ในเรื่องแผนการออกจากสหภาพยุโรปของเธอ โดยรัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยประกาศลาออกไปแล้วถึง 2 คน ขณะที่หลายฝ่าย รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์ ของอังกฤษ เริ่มออกมาเรียกร้องให้มีการจัดลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรปอีกครั้ง