นาย ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ตั้งข้อสังเกตว่า ประจักษ์พยานฝั่งผู้เสียชีวิตที่ไม่ขึ้นเบิกความในชั้นศาล อาจเป็นการใช้เทคนิคทางกฎหมาย หรือที่เรียกว่า “การล้มคดี” หากครอบครัวจะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ และ ตำรวจรื้อคดีแนะนำให้ตำรวจตรวจสอบใบรับรองแพทย์ให้รอบคอบ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าภาพจากกล้องวงจรปิดน่าจะเพียงพอให้ยื่นอุทธรณ์ได้
นอกจากนี้ ขอแนะนำพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่เดินหน้ารื้อคดีอยู่ว่า ตำรวจควรหาพยานแวดล้อมอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนมีน้ำหนักก่อนส่งให้อัยการพิจารณา เพราะจุดเกิดเหตุเป็นวันสงกรานต์ มีประจักษ์พยานมากกว่าเพื่อนของชายที่ถูกแทง เช่น ก่อนเกิดเหตุเป็นอย่างไร ใครเป็นคนแทง ใครเป็นคนช่วยเหลือ ซึ่งทั้งหมดจะต้องเกิดจากการสอบปากคำไล่เรียงจากเหตุการณ์จากตั้งต้นจนจบ
พร้อมเสนอให้พนักงานสอบสวนทุกคดีในประเทศไทย ควรแจ้งผู้เสียหายทุกครั้งก่อนส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาส่งฟ้อง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำรอยในอนาคต และ ฝากถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นว่าสามารถติดต่อขอมาเป็นพยานใหม่ได้เพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ หากกังวลเรื่องความปลอดภัย แนะนำให้แจ้งตำรวจคุ้มกัน