-29 ก.ค.61-
ความคืบหน้าสถานการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตกในแขวงอัตตะบือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) วันนี้ เฟซบุ๊ก ABC Laos news โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถนำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่แขวงอัตตะปือ ใน สปป.ลาว เกิดตกลงไปในเหว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวลาว 1 ราย (อ่านข่าว : รถขนของช่วยเขื่อนแตกที่อัตตะปือ สปป.ลาว พุ่งตกข้างทาง )
ลำดับเหตุการณ์ “เขื่อนแตก” ที่ สปป.ลาว
-22 ก.ค.61-
บริษัท SK Engineering & Construction ผู้รับเหมาของเกาหลีใต้ที่มีหุ้นส่วนในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบรอยร้าวบางส่วนบนตัวเขื่อนตั้งแต่เมื่อช่วง 21.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค.61 จึงแจ้งเตือนไปยังชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้เตรียมพร้อมอพยพ รวมถึงจัดส่งทีมงานเข้าไปเร่งซ่อมแซมความเสียหายที่ตัวเขื่อน แต่ยังไม่สามารถซ่อมได้ เนื่องจากในช่วงนั้นมีฝนตกหนัก ทำให้ถนนหนทางในพื้นที่ได้รับความเสียหาย
-23 ก.ค.61-
กระทั่งช่วงเช้ามืดวันจันทร์ ที่ 23 ก.ค.61 เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจระบายน้ำจากเขื่อนเซน้ำน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในสองเขื่อนหลัก เพื่อลดระดับน้ำในเขื่อนย่อย จนในช่วงเที่ยงของวัน รัฐบาลจึงได้ประกาศอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อน เนื่องจากคาดว่าอาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นเพิ่มเติม ก่อนที่จะมีรายงานยืนยันเขื่อนแตกในช่วงเย็น ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 7 แห่งในพื้นที่ท้ายเขื่อน
ส่วนสาเหตุที่เกิดรอยร้าวบนตัวเขื่อน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำมหาศาลไหลเข้าสู่เขื่อนย่อยของโครงการ สำหรับเขื่อนดังกล่าว ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยดำเนินการไปแล้วกว่า 90% และคาดว่าจะแล้วเสร็จ จนสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปีหน้า
-24 ก.ค.61-
เหตุการณ์ “เขื่อนแตก” จุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ที่อำเภอสันทราย เพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้สูญหายมากกว่า 100 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะเดียวกันประชาชนราว 6,600 คน กลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะที่พักถูกน้ำพัดหายไปทั้งหลัง เหตุเขื่อนแตกครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ หลังเขื่อนดินย่อยส่วน D ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เขื่อนย่อย ที่อยู่รอบๆ เขื่อนหลักเกิดรอยแตก เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านลิตร ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวม 6 หมู่บ้านในเขตเมืองสนามไชยของแขวงอัตตะปือ อย่างรวดเร็ว ทำให้คนส่วนใหญ่หนีไม่ทัน (อ่านข่าว : วิกฤต!! สปป.ลาว เขื่อนแตก กว่า 6,000 คนไร้บ้าน )
-25 ก.ค.61-
สถานการณ์ “เขื่อนแตก” วันนี้ ทางการได้ประกาศภาวะภัยพิบัติจากวิกฤตเขื่อนแตกในครั้งนี้ ขณะที่ทางการท้องถิ่นแขวงอัตตะปือเริ่มใช้เรือและเฮลิคอปเตอร์ เข้าไปอพยพชาวบ้านที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่ พร้อมร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานภาครัฐ ให้ช่วยจัดหาเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ (อ่านข่าว : สปป.ลาว เขื่อนแตก ตาย 20 สูญหายนับร้อย )
ทั้งนี้ การสร้างเขื่อนในประเทศ สปป.ลาว นับเป็นโครงการระดับรัฐบาล ที่ต้องการสร้างเพื่อเป็นแหล่ง ”ผลิตกระแสไฟฟ้า” โดยจะจำหน่ายและส่งออกให้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีเป้าหมายเป็น "หม้อไฟอาเซียน" หรือ "แบตเตอรี่แห่งอาเซียน" (อ่านข่าว : “เขื่อน” ในลาวแหล่งหม้อไฟอาเซียน )
ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์สันเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว แตก ขณะที่นายกรัฐมนตรีส่งสาสน์แสดงความเสียใจแล้ว (อ่านข่าว : กระทรวงต่างประเทศ ยันเขื่อนลาวแตกไม่กระทบคนไทย )
ย้อนรอยเหตุเขื่อนแตกครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุเขื่อนแตกรุนแรงทั่วโลกมาแล้วอย่างน้อย 10 ครั้ง และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในแถบเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเหตุเขื่อนแตกที่สร้างความเสียหายมากที่สุด คือ เหตุเขื่อนปั่นเฉียว และเขื่อนชิมานตันแตก ที่มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน ในปี 1975 ซึ่งหนังสือพิมพ์ China Daily เพิ่งจะมาเปิดเผยรายละเอียด หลังจากเกิดเหตุไปแล้ว 24 ปี โดยรายงานยอดผู้เสียชีวิตไว้ที่ 2 หมื่นคน
-26 ก.ค.61-
สถานการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตกในแขวงอัตตะบือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 26 คน สูญหายอย่างน้อย 131 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรีลาวแถลงข่าวสรุปสถานการณ์ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือ (อ่านข่าว : สปป.ลาว เร่งช่วยเหลือเหยื่อเขื่อนแตก เสียชีวิตแล้ว 26 คน สูญหาย 131 คน )
สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้คณะสงฆ์หนตะวันออกทุกจังหวัด รวบรวมกัปปิยภัณฑ์พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยประชาชนใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่กำลังเผชิญกับเหตุภัยพิบัติครั้งใหม่ พร้อมให้ไวยาวัจกรนำส่งกัปปิยภัณฑ์เท่าราคา 1,000,000 บาท เช่นเดียวกับรัฐบาล และหน่วยงานต่างกำลังระดมความช่วยเหลือไปให้กับประชาชนที่กำลังประสบภัยพิบัติ (อ่านข่าว : "สมเด็จพระสังฆราช" ประทานของจำเป็น 1 ล้านบาท ช่วย ปชช.เขื่อนแตกในลาว )
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ บริเวณด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลืออย่างเป็นทางการวันนี้ หลังจากเกิดเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกในแขวงอัตตะบือ ของ สปป.ลาว ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 26 คน สูญหายอย่างน้อย 131 คนพร้อมประสานสปป.ลาว ในการรับสิ่งของบริจาค และเงินสด (อ่านข่าว : ไทยเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนแตก สปป.ลาว ที่ด่านช่องเม็ก )
อ่านข่าว :
ชาวบ้านผู้รอดชีวิตเล่าวินาที "เขื่อนแตก" ที่ สปป.ลาว
ด่านช่องเม็ก ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย สปป.ลาว วันแรก
“จิสด้า” เปิดภาพถ่ายดาวเทียม “เขื่อนแตก” ที่ สปป.ลาว คาดน้ำท่วมคุมพื้นที่ 20 กม.
-27 ก.ค.61-
สถานการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตกในแขวงอัตตะบือ ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ล่าสุด กองกำลังทหารเข้าค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของลาว หลังเขื่อนแตก พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน คาดการณ์ว่า หลังน้ำลดตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดผู้ประสบภัยบางส่วน เริ่มกลับเข้าบ้านเรือนและทำความสะอาด หลังระดับน้ำท่วมค่อยๆ ลดลง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด เพิ่มเป็น 27 คน (อ่านข่าว : ชาวลาวเริ่มกลับบ้าน-ทำความสะอาด หลังเหตุเขื่อนแตก )
อ่านข่าว : ชาวบ้านผู้รอดชีวิตเล่าวินาที "เขื่อนแตก" ที่ สปป.ลาว
-28 ก.ค.61-
แม้ระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่การเข้าพื้นที่ยังคงยาก เนื่องจากน้ำได้พัดดินโคลนเข้ามาในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมกว่า 10 หมู่บ้าน สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือ การรอเครื่องจักรหนักเป็นเครื่องทุ่นแรง การค้นหาผู้สูญหาย ( อ่านข่าว : สปป.ลาว รอเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ค้นหาผู้สูญหาย "เขื่อนแตก" )
อ่านข่าว : สปป.ลาว สรุปผู้สูญหายเขื่อนแตก 123 คน ผู้ประสบภัยเกือบ 4 พันคน
