เขื่อนวชิราลงกรณแจ้งเพิ่มการระบายน้ำ สูงสุด 36 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศปรับเพิ่มระดับการระบายน้ำต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1-5 สิงหาคม 2561 สูงสุดที่ 36 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หลังพบปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนยังเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกวัน

เมื่อวันที่ (1 ส.ค. 61)  นายไววิทย์ แสงพาณิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงสถานการณ์การระบายน้ำที่กักเก็บภายในเขื่อนวชิราลงกรณว่า หลังจากที่ทางเขื่อนได้มีการปรับเพิ่มระดับการระบายน้ำจาก 25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มาเป็น 28 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในวันที่ 30 และ31 กรกฎาคม นั้น ปรากฏว่า ปริมาณของน้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เขื่อนมีน้ำกักเก็บ 7,146 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 81 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้ โดยยังเหลือปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้อีก 1,714 ล้านลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์ดังกล่าว หากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนในปริมาณที่มากอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำให้เหมาะสม จะมีความเสี่ยงที่น้ำจะเต็มเขื่อนจนต้องมีการเปิดระบบระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉิน หรือ สปิลเวย์(Spillway) เหมือนครั้งก่อน ๆ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำภายในอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สามารถรองรับปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เหลืออีก 2เดือนได้ ที่ประชุมอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ์ จากวันละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในการปรับเพิ่มให้เป็นไปตามขั้นตอน มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและทยอยปรับเพิ่มทีละน้อย วันละ 2-3 ล้านลูกบาศก์เมตร  ดังนั้น ทางเขื่อนวชิราลงกรณ์จึงจะเริ่มมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำ ในวันนี้ (1 สิงหาคม 2561) จาก 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 31 ล้านลูกบาศก์เมตร

วันที่ 2 สิงหาคม 2561 ปรับเพิ่มเป็น 34 ล้านลูกบาศก์เมตร และวันที่ 3-5 สิงหาคม 2561 จะปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 36 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางเขื่อนวชิราลงกรณได้ทำหนังสือแจ้งไปทางจังหวัดกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากระดับน้ำมีการปรับระดับสูงขึ้นต่อไป

ข้อมูลจากเว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) รายงานข้อมูลเขื่อนหลักที่มีน้ำมาก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร มีน้ำ 92 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณกักเก็บ 478 ล้านลูกบาศก์เมตร 2.เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีน้ำ 91 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณกักเก็บ 649 ลูกบาศก์เมตร 3.เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีน้ำ 85 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณกักเก็บ 15,156 ล้านลูกบาศก์เมตร 4.เขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  มีน้ำ 81 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณกักเก็บ 317 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในอันดับ 5 มีน้ำ 81 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณกักเก็บซึ่งอยู่ที่ 7,146 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ ซึ่งเมื่อวานนี้มีรายงานน้ำล้นตลิ่งใน 4 พื้นที่ ได้แก่ อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร  อำเภอเมืองยโสธร อำเภอละงู จังหวัดสตูล และอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้มีรายงานว่าสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งเหลือเพียง 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่อำเภอป่าติ้ว และอำเภอเมืองยโสธร และอำเภอละงู จังหวัดสตูล ส่วนที่อำเภอเวียงสา ได้ปรับสถานะจาก “น้ำล้นตลิ่ง” ลงมาเป็น “น้ำมาก”

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ