ตามผลการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการออกแบบเบื้องต้น โครงการระบบขนส่งมวลชนสายสีเหลือง ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2550 – 2554 ได้แบ่งเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ ออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงรัชดาลาดพร้าว – พัฒนาการ และช่วงพัฒนาการ – สำโรง หรือ โครงการรถไฟฟ้าสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรงในปัจจุบัน
จากข้อมูลจากเว็บไซต์การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงินระยะแรก) ที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว ไปตามแนวถนนลาดพร้าว เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาของกรุงเทพมหานครที่แยกฉลองรัช และยกระดับข้ามทางด่วนฉลองรัชจนถึงทางแยกบางกะปิ
จากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวขวาไปทางทิศใต้ตามถนนศรีนครินทร์ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ทางแยกลำสาลี ต่อจากนั้นแนวเส้นทางจะยกระดับข้ามทางแยกต่างระดับพระราม 9 โดยเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) และผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดมสุข แยกศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา จากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวขวาอีกครั้งไปทางทิศตะวันตก ตามแนวถนนเทพารักษ์ ผ่านจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง และสิ้นสุดแนวเส้นทางบริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 30.4 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานีทั้งหมด 23 แห่ง โรงจอดรถศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง อาคารและลานจอดแล้วจร 1 แห่ง บริเวณพื้นที่ทางแยกต่างระดับศรีเอี่ยม
ทั้งนี้ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทำให้มีความจำเป็นต้องปิดถนน โดย ปิดถนนลาดพร้าวในบางช่วง และในบางช่องทาง และจะยกเลิกช่องทางพิเศษ บริเวณขาออก ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 61 – ลาดพร้าว 87 โดยในวันที่ 1 ส.ค.จะยกเลิกตั้งแต่ช่วงแยกบางกะปิ(ลาดพร้าว138)-โชคชัย4 (ลาดพร้าว 51) และ ในวันที่ 20 ส.ค. เป็นต้นไป จะยกเลิกในช่วงแยกโชคชัย4,แยกรัชดา,ลาดพร้าว และในจุดที่ 2 ตั้งแต่ซอยลาดพร้าว 43 – หน้าตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 จะทำให้ถนนลาดพร้าวทั้งขาเข้าและขาออกจะเหลือช่องจราจรเพียงด้านละ 2 ช่องเท่านั้น เพื่อใช้พื้นที่ก่อสร้างสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เป็นระยะเวลา 3 ปีตามระยะเวลาดำเนินการ
อ้างอิงจากผลสำรวจจาก INRIX ที่จัดอันดับเส้นทางในกรุงเทพฯ ที่มีรถติดมากที่สุดกัน 10 อันดับ พบว่า ถนนลาดพร้าว เป็นถนนที่มีรถติดเป็นอันดับที่ 8 ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2556 ถนนลาดพร้าวได้รับการจัดอันดับให้เป็นถนนที่มีการจราจรติดขัดที่สุดในกรุงเทพมหานคร
ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวี ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนลาดพร้าวในช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า การจราจรค่อนข้างติดขัดมากขึ้นกว่าทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณก่อนขึ้นสะพาน หรือจุดที่ใกล้กับแยกไฟแดง เนื่องจากได้มีการยกเลิกช่องทางพิเศษ และปิดการจราจร 1 ช่องทางบนถนนลาดพร้าวในบางช่วง ซึ่งตลอดเส้นทาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำป้ายประกาศมาติด โดยระบุข้อความว่า ยกเลิกช่องทางพิเศษบนถนนลาดพร้าวตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ทั้งบริเวณแผงกั้นเลน และบนสะพานลอย
พันตำรวจโทสรพงษ์ นาคะโยคี รอง.ผกก.จร.สน.โชคชัย เปิดเผยกับทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีว่า วันนี้เป็นวันแรกที่มีการปิดช่องทางพิเศษ โดยเริ่มจากช่องทางพิเศษที่ดำเนินการมาเกินสิบปีแล้ว สืบเนื่องจากจะมีการขยายแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในช่องทางด้านขาออก จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกช่องทางพิเศษไป แต่ว่าไม่ได้ยกเลิกทั้งหมด ยังคงไว้ที่โชคชัย 4 ไปทางแยกลาดพร้าวที่มุ่งหน้าไปยังเขต สน.พหลโยธิน ยังคงมีอยู่ และจะดำเนินการยกเลิกภายหลังต่อไป
โดยวันนี้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ โดยประสานกับบริษัทผู้รับเหมา ให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์ทุกปากซอย โดยเฉพาะปากซอยทางด้านลาดพร้าวฝั่งเลขคี่ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทางเลี้ยวขวาเข้าช่องทางพิเศษ มีติดป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามเลี้ยวขวา และก็ยกเลิกช่องทางพิเศษแล้ว และก็จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด
ส่วนการลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่เริ่มมีการปิดช่องทางการจราจรทั้งขาเข้า-ขาออก ฝั่งละ 1 ช่องทาง วันนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างเริ่มเข้าสู่พื้นที่การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และอยู่ระหว่างการกั้นเส้นทาง ทำให้การจราจรบริเวณนี้เริ่มติดขัดมากขึ้นเช่นกัน
ด้านมุมมองของประชาชนที่ใช้เส้นทางบริเวณถนนลาดพร้าวเป็นประจำด้วยรถประจำทางอย่าง นางสาวสกาวเดือน วันสม บอกว่า การเริ่มปิดช่องทางพิเศษบนถนนลาดพร้าวในวันนี้เป็นวันแรก เธอเลือกที่จะเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้นจากแต่เดิมใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที เป็น 1 ชั่วโมงในวันนี้ เพราะยังกะเวลาไม่ถูกว่าการปิดเส้นทางการจราจรในบางช่วงจะทำให้รถติดเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็คิดว่าการอดทนในวันนี้ อนาคตข้างหน้าก็อาจจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีรถไฟฟ้าที่ทำให้เดินทางสะดวกมากขึ้น
เช่นเดียวกับ นายพรหมสร จันทร์ดี ที่ในทุกวันจะต้องมารอรถเมล์เพื่อขึ้นรถจากซอยลาดพร้าว 138 ไปทำงานที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เขาบอกว่าปกติจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที แต่วันนี้ทราบข่าวว่ามีการปิดช่องทางพิเศษเป็นวันแรกก็เผื่อเวลาในการเดินทางเป็น 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ซึ่งเขายังบอกอีกว่าโดยส่วนมากช่วงเวลาที่รถติดจะเป็นช่วง 07.00-09.00 น. ส่วนช่วงตอนค่ำจะเป็นช่วงเวลา 17.00 – 19.00 น. แต่หากในอนาคตมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านบริเวณนี้ ก็น่าจะสัญจรไปมาได้สะดวกขึ้น
เส้นทางเลี่ยงจราจรโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง
อ่านข่าว : เริ่ม ! ปิดถนนลาดพร้าวฝั่งละ 1 ช่องทาง สร้างรถไฟฟ้า 3 ปี
