สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาร้านรวงต่าง ๆ ทั่วกรุง “ฮาราเร่” ต่างปิดตัวเงียบ รวมถึงบนถนนก็แทบจะไม่มีรถวิ่ง หลังเกิดเหตุทหารฝ่ายรัฐบาล ใช้กำบลังบุกเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงผลการเลือกตั้ง ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลขู่ว่า จะกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามแบบถอนรากถอนโคนหากไม่ยุติการสร้างความวุ่นวาย
โดยความรุนแรงครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการเลือกตั้งทั่วไป ที่ผลเบื้องต้นระบุว่า พรรคซานู-พีเอฟ (Zanu-PF) ของประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน มนังกากวา ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคร่วมฝ่ายค้าน MDC อ้างว่าฝ่ายรัฐบาลโกงผลคะแนน ทำให้ชาวซิมบับเวจำนวนมากออกมาชุมนุม จนกลายเป็นเหตุรุนแรงดังกล่าว
สำหรับผลการนับคะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า พรรคซานู-พีเอฟ ได้ไป 140 ที่นั่ง ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ไป58 ที่นั่ง แต่ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งมีกำหนดว่าจะเปิดเผยออกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็ถูกยกเลิกไป โดยทางคณะกรรมการการเลือกตั้งอ้างว่า ผู้แทนของ 23 พรรค ที่ส่งตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่ปรากฏตัวในการนับคะแนน จึงยังไม่สามารถนับคะแนนอย่างเป็นทางการได้ อย่างไรก็ตามการเมืองของซิมบับเว เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นับตั้งแต่นายโรเบิร์ต มูกาเบ้ ที่ครองอำนาจมานานหลายสิบปี ถูกกองทัพก่อรัฐประหาร จนต้องยอมออกจากตำแหน่ง